เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ครั้งที่ 1/2562 โดยมี นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน นางเพชรรัตน์ สินอวย อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน และตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นต้น เข้าร่วม
พล.อ.ประวิตร กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการการทำงานของแรงงานต่างด้าว ปี 2562-2563 โดยเสนอให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา กลุ่มที่ใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) และการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังไม่หมดอายุ (ไม่รวมกลุ่มที่นำเข้าตามระบบเอ็มโอยู) และกลุ่มที่ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางที่ยังมีอายุเหลืออยู่ในวันที่ไปยื่นขออนุญาตเพื่ออยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว สามารถดำเนินการในลักษณะนำเข้าตามเอ็มโอยู โดยไม่ต้องเดินทางออกนอกราชอาณาจักร และอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไม่เกิน 2 ปี โดยประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร (ขออยู่ต่อ) ครั้งละไม่เกิน 1 ปี ส่วนการอนุญาตทำงานจะอนุญาตไม่เกิน 2 ปี โดยแยกเป็น 2 ห้วงเวลา คือ 1.ใบอนุญาตทำงานหมดอายุก่อนวันที่ 31 มีนาคม 2563 อนุญาตให้ทำงานถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 2.ใบอนุญาตทำงานหมดอายุตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป อนุญาตให้ทำงานถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565 สำหรับแรงงานกลุ่มอื่นหรือแรงงานที่ไม่ประสงค์จะดำเนินการตามแนวทางนี้ เมื่อสิ้นสุดการอนุญาตทำงานแล้วต้องเดินทางกลับประเทศ หากประสงค์จะทำงานในประเทศไทยต้องเดินทางเข้ามาทำงานโดยถูกต้องตามกฎหมายตามระบบเอ็มโอยูเท่านั้น
“สำหรับระยะเวลาดำเนินการเพื่อขอรับใบอนุญาตทำงานและการขออยู่ต่อในราชอาณาจักรชั่วคราวจะเริ่มวันที่ 15 สิงหาคม 2562 หรือภายใน 15 วัน นับตั้งแต่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการดำเนินการจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563 โดยแรงงานต่างด้าวสามารถยื่นคำขออยู่ต่อในราชอาณาจักรกับพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้ก่อนระยะเวลาการอนุญาตสิ้นสุด 90 วัน ทั้งนี้ ให้ดำเนินการ ณ ที่ตั้งสำนักงานของแต่ละหน่วยงานเป็นหลัก และดำเนินการในลักษณะศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ โดยในกรุงเทพมหานครมอบหมายให้อธิบดี กกจ.เป็นผู้พิจารณา ในส่วนภูมิภาคมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้พิจารณา” พล.อ.ประวิตรกล่าว และว่า ได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงานนำแนวทางดังกล่าวเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขณะนี้ มีแรงงานต่างด้าวที่จะต้องดำเนินการตามแนวทางดังกล่าว จำนวน 2,056,467 คน แบ่งเป็น แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ กลุ่มที่การอนุญาตจะสิ้นสุดก่อนวันที่ 31 มีนาคม 2563 มี 587,533 คน เป็นกลุ่มพิสูจน์สัญชาติเดิม 575,493 คน กลุ่มประมง มาตรา 83 พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การประมง พ.ศ.2558 มี 12,040 คน และกลุ่มที่การอนุญาตจะสิ้นสุดตั้งแต่ วันที่ 31 มีนาคม 2563 มี 1,468,934 คน โดยเป็นกลุ่มพิสูจน์สัญชาติเดิม 281,777 คน และกลุ่มจัดทำ/ปรับปรุง ทะเบียนประวัติ 1,187,157 คน
