“หมอมนูญ” เผยพบผู้ป่วย “โรคลายม์” รายแรกในไทย ติดเชื้อหลังเที่ยวตุรกี

วันที่ 15 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ เฟซบุ๊กของ นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์ประจำโรงพยาบาล (รพ.) วิชัยยุทธ ได้โพสต์เตือนประชาชนที่ชอบเดินทางไปท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะต่างประเทศ ให้ระมัดระวังการติดเชื้อ “โรคลายม์” (Lyme disease) ซึ่งเป็นโรคประจำถิ่นของหลายประเทศ แต่ไม่เคยพบในประเทศไทย เนื่องจากล่าสุด พบหญิงสาวชาวไทยรายหนึ่งเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศตุรกี หลังจากนั้นกลับมาป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ มีอาการหนัก และแพทย์ได้ช่วยกันรักษาใช้เวลาอยู่โรงพยาบาล 2 เดือน และหลังจากนั้นอีก 5 เดือน กลับไปทำงานได้แล้วตามปกติ แต่ความจำบางส่วนหายไป และแพทย์ตรวจพบว่าติดเชื้อโรคดังกล่าว

ทั้งนี้ข้อความดังกล่าวระบุว่า

“โรคลายม์  เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียโบเรลเลีย (borrelia) ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม spirochetes เห็บ (ticks) เป็นพาหะนำโรคนี้ โดยกินเลือดจากสัตว์จำพวกสุนัข ม้า กวาง วัว ควาย หนู ที่เป็นตัวกักตุนโรค และนำเชื้อโรคเข้าสู่คนเมื่อมากัดกินเลือดคน โรคนี้พบในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศตุรกี ยังไม่มีรายงานโรคนี้ในประเทศไทย อาการของโรคลายม์ในคนจะแสดงออกหลังได้รับเชื้อ 2-4 สัปดาห์ อาการที่พบได้บ่อยคือ มีผื่นบริเวณที่ถูกเห็บกัด ไข้ ปวดหัว อ่อนเพลีย เชื้อนี้เล่นงานหลายอวัยวะในคน

เห็บเป็นพาหะนำโรค

ผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 47 ปี เพิ่งไปเที่ยวหลายเมืองในประเทศตุรกีนาน 8 วัน หลังกลับมา 17 วัน เริ่มมีไข้ ไอ ปวดหัว ปวดตัว อ่อนเพลีย ไม่มีผื่น เข้านอนรักษาในโรงพยาบาล ตรวจไม่เป็นไข้หวัดใหญ่ หรือไข้เลือดออก เอกซเรย์ปอดปกติ หลังจากนั้นอีก 4 วัน มีไข้ หัวใจเต้นช้า โคม่า หมดสติ มีชักกระตุกใบหน้าขวา แขนขวา ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ทำคอมพิวเตอร์สมอง CT Brain ปกติ ทำคลื่นไฟฟ้าสมอง EEG พบมีสัญญาณเป็นโรคลมชัก ได้ส่งเลือดและน้ำไขสันหลังตรวจหาแบคทีเรียทั่วไป โรคฉี่หนู โรค Rickettsia วัณโรค เชื้อรา ไวรัสต่างๆ รวมทั้ง Nipah virus, West Nile virus, Hantavirus, JE virus ,Adenovirus, Flavivirus,Herpes simplex virus, Varicella zoster virus,Epstei-Barr virus, Cytomegalovirus ผลกลับมาปกติ ให้ยากันชักต่อเนื่อง และยาปฏิชีวนะ 2 ขนาน คือ Ceftriaxone และ doxycycline 7 วันแรก ต้องทำการเจาะคอ เพราะต้องใส่เครื่องช่วยหายใจนาน อาการค่อยๆ ดีขึ้น ในที่สุดหายใจเอง ถอดเครื่องช่วยหายใจได้ ตื่นดี กลับมารู้เรื่อง

Advertisement

หลังกลับจากตุรกี 40 วัน ได้ส่งเลือด Borrellia antibody ตรวจหาโรคลายม์ ผล Borrellia antibody IgG เป็นบวก เข้าได้กับโรคลายม์ ตรวจสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า MRI Brain พบความผิดปกติที่สมองส่วนหน้าด้านซ้าย (left frontal lobe) ผู้ป่วยดีขึ้นช้าๆ นอนรักษาใน รพ. 2 เดือน หลังจากนั้นอีก 5 เดือนกลับไปทำงานได้ตามปกติ แต่จำเหตุการณ์ย้อนหลังไม่ได้ จำไม่ได้ว่าเคยไปเที่ยวประเทศตุรกี จำไม่ได้ว่าเคยป่วยหนักนอนใน รพ.

Advertisement

ผู้ป่วยรายนี้น่าจะรับเชิ้อ Borellia ในประเทศตุรกี หลังจากนั้น 3-4 สัปดาห์ มีไข้ สมองอักเสบ (Neuroborreliosis) หัวใจเต้นช้า ต่อมาต้องใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจไฟฟ้าอีก 4 เดือนถัดมา วินิจฉัยเป็นโรคลายม์ โดยการตรวจทางห้องปฏิบัติการหาภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ Borrelia ในเลือด ผู้ป่วยรายนี้ได้รับยาปฏิชีวนะ doxycycline และ ceftriaxone ตรงกับโรคนี้ตั้งแต่ต้น อาการจึงค่อยๆ ดีขึ้นช้าๆ โรคนี้ไม่พบในประเทศไทยและพบไม่บ่อยในประเทศตุรกี คนไทยที่ไปท่องเที่ยวประเทศตุรกีกลับมา ก็ไม่มีรายงานว่าเคยป่วยเป็นโรคนี้”

#ขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image