“พีมูฟ” ร้อง “ท็อป” แก้ปัญหาป่าไม้และที่ดิน 73 กรณี
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 22 กรกฎาคม ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม(ขปส.) หรือพีมูฟ เดินทางเข้าร้องเรียนต่อนายวราวุธ ศิลปอาชารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.)ในเรื่องการแก้ไขปัญหาป่าไม้และที่ดินของกลุ่มพีมูฟ
นายประยงค์ ดอกลำไย ที่ปรึกษากลุ่มพีมูฟ กล่าวว่า ทางกลุ่มฯ อยากเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาป่าไม้และที่ดินในเขตป่า 11 แนวทาง คือ 1. ยุตินโยบายทวงคืนผืนป่าที่สร้างผลกระทบต่อคนจนและเกษตรกรรายย่อย พร้อมฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ 2. ผลักดันให้มีมาตรการคุ้มครองพื้นที่โฉนดชุมชน 3. ทบทวน ปรับปรุงเนื้อหา พ.ร.บ.ป่าชุมชน, พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฯ ฉบับ พ.ศ. 2562 ให้สอคคล้องกับเนื้อหาและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ปี พ.ศ. 2560 4. ให้ทบทวนมติครม.เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 61 เรื่อง พื้นที่เป้าหมายและกรอบมาตรการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่าไม้ เพราะไม่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่
นายประยงค์ กล่าวอีกว่า ข้อ5. ผลักดันให้มีการคุ้มครอง พื้นที่ที่อยู่อาศัย พื้นที่ทำกิน พื้นที่ทางจิตวิญญาณ และพื้นที่วัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธ์กะเหรี่ยง และชาวเล 6. ผลักดันให้มีพ.ร.บ.สิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและทรัพยากรในรูปแบบโฉนดชุมชน ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากสภาปฏิรูปแห่งชาติแล้ว 7. กรณีชุมชนที่อยู่ในระหว่างกระบวนการแก้ปัญหากับหน่วยงานของทส. ให้ชุมชนสามารถเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานได้ 8.ให้มีการแก้ไขปัญหาผู้ได้รับผลกระทบจากคดีป่าไม้ที่ดินที่เกิดจากนโยบายทวงคืนผืนป่า
ที่ปรึกษากลุ่มพีมูฟ กล่าวว่า ข้อ9. เร่งแก้ไขปัญหาป่าไม้ที่ดินที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรฯ 73 กรณี 10. ให้มีนโยบายพัฒนาพื้นที่ต้นแบบในการแก้ไขปัญหาพื้นที่ทำกินที่อยู่อาศัยและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ภายใต้ความร่วมมือของทส. และกลุ่มพีมูฟ และ11.ให้มีกลไกการประสานงานเพื่อติดตามความคืบหน้าและแก้ไขปัญหาร่วมระหว่างทส. และกลุ่มพีมูฟ
โดยนายวราวุธ ชี้แจงว่า ปัญหาระหว่างคนกับป่าเป็นปัญหาที่ตนเข้าใจดีทั้งสองฝ่าย เพราะฝั่งชาวบ้านที่อยู่มานานตั้งแต่ปู่ย่าตายาย จู่ๆ มีกฎหมายออกมา สุดท้ายกลายเป็นผู้บุกรุก แต่ก็ต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่ หากไม่ปฏิบัติหน้าที่จะโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ มาตรา 157 ที่ผ่านมาเราพบว่าเจ้าหน้าที่ข้าราชการในส่วนดีก็เยอะ ไม่ดีก็มี ในส่วนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อนจริงๆ ก็มี แต่ก็มีบางกลุ่มที่อาศัยช่องว่างของกฎหมายเอานิดเอาหน่อย ทำให้เกิดปัญหาความไม่เข้าใจกันขึ้นมา แต่อย่างไรก็ตามขอให้พี่น้องประชาชนอุ่นใจ กระทรวงทรัพยากรฯ จะหาวิธีเยียวยาให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบทั้ง 73 กรณี หรือตามที่เสนอแนวทางมาทั้ง 11 ข้อ
“ทั้งนี้ผมจะตั้งคณะกรรมการ โดยมีทั้งส่วนราชการ นักวิชาการ สถาบันการศึกษา รวมทั้งภาคประชาชน เพื่อนำปัญหามากางไว้บนโต๊ะและจัดการแก้ปัญหาทีละเรื่อง ทีละชุมชน ซึ่งอาจต้องแก้จากปัญหาง่ายๆ ไปก่อน และทุกกรณีจะต้องได้แก้ปัญหา ผมเข้าใจความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เพราะเดินตามพ่อบรรหารมาตั้งแต่ 3 ขวบ โดยจะนำข้อเดือนร้อนไปหาวิธีแก้ไขปัญหาให้ได้” นายวราวุธ กล่าว
