หน.อุทยานฯทับลาน เข้าพบ ‘วราวุธ’ ให้ข้อมูล 88 การ์มองเต้ จ่อใช้มาตรา 22 เพื่อรื้อถอนแน่นอน
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน เปิดเผยว่า วันนี้ (24ก.ค.) ตนได้เข้าพบนายวราวุธ ศิลปอาชา รรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เพื่อรายงานข้อมูลกรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เลือกสถานที่จัดงานสัมมนา ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ 88 การ์มองเต้ รีสอร์ต อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบริเวณที่อุทยานแห่งชาติทับลานจับกุมดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกพื้นที่ในเขตอุทยานฯ โดยให้ข้อมูลกับรัฐมนตรีว่า 88 การ์มองเต้ บุกรุกพื้นที่อุทยานจริง และไม่ได้อยู่ในพื้นที่ทับซ้อนกับพื้นที่ สปก.แต่อย่างใด ที่สำคัญผู้ประกอบการยังไม่ได้ยื่นขอความคุ้มครองชั่วคราวจากศาลปกครอง
นายประวัติศาสตร์กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ผู้ประกอบการยังสามารถดำเนินกิจการได้ ไม่ใช่มีแค่ 88 การ์มองเต้เพียงแห่งเดียว แต่เนื่องจากการประกาศมาตรา 22 ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 เพื่อดำเนินการรื้อถอนนั้น อยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งอุทยานฯได้ประกาศเป็นโซนพื้นที่ โดยจะประกาศในพื้นที่เสี่ยงหรือพื้นที่ใกล้ป่าก่อน ส่วน 88 การ์มองเต้ อยู่โซนนอกติดกับพื้นที่ชุมชน จึงอยู่ระหว่างการดำเนินการประกาศใช้มาตรา 22
หัวหน้าอุทยานฯทับลานกล่าวอีกว่า ส่วนการต่อสู้คดีของผู้ประกอบการ เช่น การอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขต สปก.นั้น มีเจ้าหน้าที่ของ สปก.ให้การเท็จต่อศาล และให้ประโยชน์ต่อผู้กระทำผิด อัยการจึงไม่สั่งฟ้องเพราะเห็นว่าผู้ประกอบการขาดเจตนาในการบุกรุก อย่างไรก็ตาม ในการต่อสู้ทางคดี กรมอุทยานฯมีความพร้อมในเรื่องข้อมูลและหลักฐานต่างๆ ซึ่งมั่นใจว่าจะต่อสู้ในชั้นศาลได้ และยืนยันว่ากรมอุทยานฯ เตรียมจะประกาศมาตรา 22 เพื่อทำการรื้อถอนอย่างแน่นอน
“ได้รายงานผลการดำเนินคดีรีสอร์ต บ้านพักตากอากาศ ที่บุกรุกพื้นที่อุทยานฯทับลานว่า ขณะนี้มีประมาณ 200 กว่าแห่ง ซึ่งเดิมจะประกาศมาตรา 22 พ.ร.บ.อุทยานฯทั้งหมด แต่เกรงว่าจะเกิดปะทะ จึงทยอยประกาศเริ่มจากในพื้นที่ที่ล่อแหลมก่อนหรืออยู่ใกล้พื้นที่ป่าก่อน ส่วน 88 การ์มองเต้ อยู่โซนนอกติดกับพื้นที่ชุมชนจึงอยู่ระหว่างการดำเนินการประกาศใช้มาตรา 22 และยืนยันว่ากรมอุทยานฯเตรียมจะประกาศมาตรา 22 เพื่อทำการรื้อถอน แต่จะไม่ขอเปิดเผยว่าปิดประกาศมาตรา 22 ในวันไหน” นายประวัติศาสตร์กล่าว
หัวหน้าอุทยานฯทับลานกล่าวอีกว่า ส่วนการต่อสู้คดีของผู้ประกอบการ เช่น การอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขต สปก.นั้น มีเจ้าหน้าที่ของ สปก.ให้การเท็จต่อศาล และให้ประโยชน์ต่อผู้กระทำผิด อัยการจึงไม่สั่งฟ้องเพราะเห็นว่าผู้ประกอบการขาดเจตนาในการบุกรุก แต่อย่างไรก็ตามในการต่อสู้ทางคดี ทางรัฐมนตรีได้กำชับเรื่องการคดีความ โดยให้เตรียมพร้อมในเรื่องข้อมูลหลักฐานอย่างรอบคอบและแน่นหนา เนื่องจากมีความซับซ้อนของปัญหาอยู่หลายประการ โดยทุกกรณีในพื้นที่อุทยานฯทับลานจะถูกปฏิบัติในมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด ไม่เลือกปฏิบัติว่าเป็นนายทุนหรือชาวบ้าน หากบุกรุกป่าจะดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างแน่นอน
