เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า นโยบายด้านสาธารณสุขหลักที่เข้ามาขับเคลื่อน คือ การส่งเสริมสุขภาพ โดยเฉพาะเรื่องของ 3 อ คือ อาหาร อารมณ์ และออกกำลังกาย โดยเรื่องอาหารจะเน้นไม่มีสารเคมีตกค้าง ซึ่งขณะนี้ สธ.ได้เริ่มขับเคลื่อนแล้ว ได้แก่ การสั่งซื้อผักและผลไม้จากเกษตรกรที่ไม่ใช้สารเคมี เพื่อมาเป็นอาหารแก่ผู้ป่วยในโรงพยาบาล ส่วนเรื่องปัญหาสารเคมีทางการเกษตรนั้น เนื่องจากมติการแบนไม่ได้อยู่ในอำนาจของ สธ. ดังนั้น ระหว่างที่ยังไม่มีสารทดแทนการใช้สารเคมี จะพยายามให้ความรู้แก่เกษตรกร เพื่อลดการสัมผัสสารเคมีให้มากที่สุด ลดผลกระทบให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนการออกกำลังกาย จะหาคนที่เป็นแรงบันดาลใจมาช่วยกระตุ้นให้เกิดการออกกำลังกายและใส่ใจสุขภาพมากขึ้น
นายสาธิตกล่าวว่า สำหรับนโยบายด้านสาธารณสุขของทางพรรคเองนั้น จะมีเรื่องของคนไข้ต้องเป็นเจ้าของข้อมูลสุขภาพตนเอง และการลดความหนาแน่นหรือความแออัดในการรับบริการ ซึ่งที่เล็งไว้ คือ การจ่ายยาให้ผู้ป่วย อาจจะไม่ต้องอยู่รอรับยา แต่ให้กลับไปที่บ้าน เพื่อลดการรอคิวและความแออัดลง โดย รพ.จะส่งยาตามไปภายหลัง ซึ่งก็ต้องมาหารูปแบบและวิธีการที่เหมาะสม
“หากจะจ้างการจัดส่งยาก็คงไม่ได้มีงบประมาณมากขนาดนั้น หรืออาจจะใช้วิธีให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการช่วยส่งยาให้แก่ผู้ป่วย และเป็นผู้อธิบายยา การใช้ยา และผลข้างเคียงแก่ผู้ป่วย เพราะหากมีการเพิ่มค่าตอบแทนให้แก่ อสม. เช่น เป็น 2,000-2,500 บาท ก็อาจจะเพิ่มภารกิจนี้ให้ อสม.ได้ ส่วนข้อกังวลว่าเภสัชกรควรจะต้องเป็นผู้อธิบายเรื่องของการใช้ยาแก่ผู้ป่วย ตรวจสอบการจ่ายยา หรือที่ผ่านมามีมาตรการของการใช้ยาสมเหตุผลที่มีการสแกนคิวอาร์โค้ดบนซองยาเพื่อให้ผู้ป่วยรู้ข้อมูลยา วิธีการใช้ ผลกระทบต่างๆ นั้น ก็คงต้องเอาข้อมูลมาพูดคุยหารือแลกเปลี่ยนกัน เพราะหากจะแก้ปัญหาคนไข้ต้องได้ประโยชน์ ลดผลกระทบสิ่งที่เกิดขึ้นตามมา มีความปลอดภัย และใช้เงินไม่มาก” นายสาธิตกล่าว
