เลขาธิการ อย.แฉเส้นทางลักลอบสั่งซื้อ “ยาลดอ้วน” เข้าคลินิกเสริมงาม

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ภายหลังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมกับ ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ใช้ยุทธการสยบไพรี ยาสวย…สังหาร ครั้งที่ 2 ปิดล้อมเครือข่ายขบวนการลักลอบนำยาลดน้ำหนักออกนอกระบบ 16 จุดทั่วประเทศ ว่า พบว่ามีการลักลอบนำยาลดน้ำหนักที่จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ตัวยาเฟนเตอร์มีน (Phentermine) ออกนอกระบบ ทั้งนี้จากการสนธิกำลังร่วมกับ บช.ปส. ทำการปิดล้อมและตรวจค้นเครือข่ายลักลอบนำยาลดน้ำหนักออกนอกระบบ 16 จุดทั่วประเทศนั้น อย.ได้ร่วมตรวจค้น 8 จุด เป็นสถานพยาบาล 6 แห่ง และบ้านนายทุน 2 แห่ง ทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด เช่น พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร เป็นต้น ในการปฏิบัติการครั้งนี้ พบมีแพทย์ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 5 ราย มีพฤติการณ์ในการนำยาลดน้ำหนักออกนอกระบบ ในจำนวนนี้ มี 1 ราย เป็นผู้สั่งซื้อยาและไปรับยาด้วยตนเอง รวมถึงมีพฤติการณ์จัดหาแพทย์รายอื่นๆ ให้สั่งซื้อยาจาก อย. แล้วนำไปขายให้แก่นายทุน

นพ.ธเรศ กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องจาก อย.ได้มีการติดตามและพบพฤติการณ์ผิดปกติจากผู้แทนซึ่งไปรับยาให้หลายๆ คลินิกที่อยู่ในต่างจังหวัดในคราวเดียวกัน จึงได้ร่วมกับ บช.ปส.สืบสวนหาข้อเท็จจริงจนทราบว่า เครือข่ายฯ ได้มีการนำยาลดน้ำหนักเฟนเตอร์มีนออกนอกระบบ โดยมีการส่งยาให้แก่แพทย์รายหนึ่งที่ จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นการอำพรางเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบ เมื่อยาไปถึง จ.พิษณุโลก แล้ว ไม่มีการนำยาไปใช้ในสถานพยาบาล แต่ได้นำยาส่วนหนึ่งส่งย้อนกลับมาให้แก่นายทุนที่กรุงเทพฯ

“ยาในส่วนนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดไว้แล้ว เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 สำหรับยาอีกส่วนหนึ่ง ได้ส่งไปให้นายทุนรายใหญ่ที่ จ.พิจิตร ซึ่งเป็นนายหน้าขายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการตรวจสอบและขยายผลจับกุม การตรวจค้นเครือข่ายฯ ในครั้งนี้พบว่า มีความเชื่อมโยงกับนายทุน และคนที่ทำหน้าที่จัดทำเอกสาร ซึ่งเคยถูกจับกุมจากปฏิบัติการยุทธการสยบไพรี ยาสวย สังหาร เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2562 ถือได้ว่าเป็นขบวนการเครือข่ายที่นำยาลดน้ำหนักเฟนเตอร์มีนออกนอกระบบเครือข่ายเดียวกัน การกระทำดังกล่าว มีความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2559 ขายวัตถุออกฤทธิ์ฯ ในประเภท 2 โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี และปรับตั้งแต่ 400,000-2,000,000 บาท” นพ.ธเรศ กล่าว

Advertisement

ทั้งนี้ นพ.ธเรศ กล่าวว่า ยาลดน้ำหนักเฟนเตอร์มีน จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ที่ อย. เป็นผู้จำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งจะขายให้แก่แพทย์ผู้ได้รับอนุญาตขายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 เท่านั้น เนื่องจากยาดังกล่าว สามารถทำกำไรเมื่อนำไปขายในตลาดมืดได้หลายเท่า จึงเป็นเหตุจูงใจที่กลุ่มนายทุนต่างๆ ลักลอบนำยาออกนอกระบบไปขายให้แก่ประชาชน จึงขอย้ำเตือนแพทย์ให้ระมัดระวังการใช้ยาลดน้ำหนัก โดยต้องจ่ายให้แก่ผู้ป่วยที่ให้การรักษาในสถานพยาบาลเท่านั้น และอย่าตกเป็นเครื่องมือของเครือข่ายลักลอบนำยาลดน้ำหนักออกนอกระบบ หากพบว่ามีแพทย์คนใดร่วมขบวนการจะถูกดำเนินคดีถึงที่สุด และจะส่งเรื่องให้แพทยสภาเพื่อพิจารณาจริยธรรมต่อไป และขอเตือนประชาชนว่า ต้องได้รับการสั่งจ่ายยาลดน้ำหนักดังกล่าวจากแพทย์ในสถานพยาบาลเท่านั้น เนื่องจากหากใช้ไม่ถูกต้องอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image