ไฟป่าพรุควนเคร็งปะทุอีก ลามเข้าแหล่งชุมชน ‘วราวุธ’ สั่งด่วน ‘เสือ-เหยี่ยว’ เร่งดับ เผยเสียหายแล้วเกือบ 5 พันไร่

ไฟป่าพรุควนเคร็งปะทุอีกรอบ ลามเข้าแหล่งชุมชน “วราวุธ” สั่งด่วน เสือ-เหยี่ยว เร่งดับ เผยเสียหายแล้วเกือบ 5 พันไร่

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลานี้เกิดไฟไหม้ป่าพรุในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช อีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการดับไฟป่าของกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของ จ.นครศรีธรรมราช ได้ร่วมกันจนสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ แต่ไฟก็ได้เกิดการปะทุขึ้นมาใหม่อีกครั้งเป็นรอบที่สอง โดย พบว่าไฟป่ายังคงลุกลามเข้าใกล้แหล่งชุมชน 2 จุด คือ ในพื้นที่หมู่ 4 ต.การเกด อ.เชียรใหญ่ และในพื้นที่หมู่ 12 ต.สวนหลวง อ.เฉลิมพระเกียรติ เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมอุปกรณ์เครื่องมือเข้าควบคุมไฟป่า เพื่อป้องกันและสกัดกันไม่ให้เปลวไฟลุกลามไปยังบริเวณบ้านเรือนชุมชน ที่อยู่อาศัยและสถานที่ของทางราชการที่อยู่ใกล้เคียง รวมพื้นที่ไฟไหม้ประมาณ 400 ไร่นั้น

Advertisement

วันเดียวกันนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ได้สั่งการให้เพิ่มกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษเหยี่ยวไฟ ของกรมป่าไม้ และชุดปฏิบัติการพิเศษเสือไฟของกรมอุทยานฯ จากภูมิภาคอื่นๆ ทั่วประเทศส่งกำลังมาเติมเพื่อลงไปช่วยเสริมกำลังเป็นการด่วนเพื่อเป็นการสับเปลี่ยนกำลัง และเพิ่มกำลังพร้อมอุปกรณ์ ในการเร่งควบคุมสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุให้ได้ โดยให้มีการร่วมจัดตั้งศูนย์บัญชาการควบคุมไฟป่าพรุควนเคร็ง จ.นครศรีธรรมราช ร่วมประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทาง จ.นครศรีธรรมราช เป็นการเร่งด่วน

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ป่าพรุควนเคร็งมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 250,883 ไร่ เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ตอนกลางครอบคลุมพื้นที่คาบเกี่ยวของ 3 จังหวัด ตั้งแต่ลุ่มน้ำปากพนังในเขตอำเภอเฉลิมพระเกียรติ, อำเภอเชียรใหญ่, อำเภอหัวไทร, อำเภอชะอวด, อำเภอร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช อำเภอควนขนุน จ.พัทลุง จนถึงพื้นที่ตอนบนของทะเลสาบสงขลา จ.สงขลา ในพื้นที่ประกอบด้วยเขตห้ามล่าสัตว์ป่าจำนวน 2 แห่ง ป่าสงวนแห่งชาติพื้นที่ของโครงการมูลนิธิชัยพัฒนา เขตพื้นที่เพื่อการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก) เขตพื้นที่เอกชนซึ่งรอบๆ พื้นที่มีประชาชนอยู่อาศัยหลายหมื่นคน ที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นปี 2562 เกิดไฟป่าไหม้ป่าพรุไปแล้ว 88 ครั้ง เนื้อที่ความเสียหายรวม 4,968 ไร่ ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่หน่อยป้องกันไฟป่าในพื้นที่เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ

Advertisement

อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวว่า จากการรายงานของเจ้าหน้าที่ ทราบว่าสาเหตุหลักของไฟไหม้ป่าพรุในครั้งนี้ มาจากการลุกลามมาจากพื้นที่ทำการเกษตรของประชาชนรอบๆ พื้นที่เข้ามาในเขตพื้นที่ป่าพรุจนลุกลามออกไปเป็นวงกว้าง และในช่วงเวลานี้ระดับน้ำในเขตป่าพรุมีระดับลดลงมาก ปริมาณเชื้อเพลิงที่สะสมตกค้างมีจำนวนมากประกอบกับช่วงนี้มีกระแสลมรุนแรงทำให้ไฟป่าที่เกิดขึ้นมีความรุนแรง เมื่อเข้าควบคุมไฟป่าทำได้ยาก ถึงแม้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมได้แล้วก็มีโอกาสสูงที่จะมีการปะทุขึ้นใหม่ของไฟป่า ซึ่งต้องมีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image