ดีเดย์! เพิ่มโทษขับขี่บนทางเท้า 2,000 บาท ‘สกลธี’ เผยพบกระทำผิดอื้อ ขู่เพิ่มค่าปรับอีก

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นวันแรกที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) เพิ่มอัตราค่าปรับผู้ที่ฝ่าฝืนขับขี่บนทางเท้า จาก 1,000 บาท เป็น 2,000 บาท ทั้งนี้ นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตวังทองหลาง ลงพื้นที่บริเวณซอยลาดพร้าว 85 สุ่มตรวจผู้กระทำความผิดขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า

นายสกลธี กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงบ่าย พบผู้ที่ฝ่าฝืนทั่วกรุงเทพมหานครแล้ว 13 คน รวมเป็นเงิน 26,000 บาท หลังจากนี้ หากมีผู้กระทำผิดซ้ำๆ ก็จะเพิ่มค่าปรับ จาก 2,000 บาท เป็น 3,000 บาท ซึ่งโทษสูงสุดอยู่ที่ 5,000 บาท และเชื่อว่า การขึ้นค่าปรับครั้งนี้ จะทำให้ผู้ที่ฝ่าฝืนเกรงกลัวต่อกฎหมาย และไม่กระทำการผิดซ้ำซากอีก ส่วนประชาชนที่ถูกจับ หากไม่มีเงินมาชำระค่าปรับ ก็จะต้องถูกยึดรถจักรยานยนต์เอาไว้จนกว่าจะมาชำระค่าปรับให้เสร็จสิ้น

“ที่ผ่านมา กทม.กำหนดอัตราโทษการจับปรับผู้กระทำผิดกรณีการจอดรถหรือขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า จำนวน 1,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นโทษที่ค่อนข้างสูง แต่ยังมีผู้ฝ่าฝืนกระทำผิดขับขี่จักรยานยนต์บนทางเท้าอีกจำนวนไม่น้อย กทม.จึงมีนโยบายที่จะเพิ่มโทษปรับผู้ขับขี่จักรยานยนต์บนทางเท้าเป็น 2,000 บาท โดยจะเริ่มจับปรับในอัตราใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไป โดยเมื่อช่วงประมาณ 1- 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจทุกสำนักงานเขตกวดขันจับ-ปรับผู้กระทำความผิด และให้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนอัตราโทษจับปรับใหม่ให้ผู้กระทำผิดทราบด้วย นอกจากนี้ ในการประชุมผู้บริหาร กทม. ผู้บริหารสำนักเทศกิจและหัวหน้าฝ่ายเทศกิจทุกสำนักงานเขตเมื่อเดือนที่ผ่านมา ได้มอบหมายสำนักเทศกิจประสานงานกับสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล จัดทำแอพพลิเคชันสำหรับตรวจสอบประวัติผู้กระทำความผิด หากพบว่าเป็นผู้กระทำผิดซ้ำซากให้ดำเนินการลงโทษสูงสุดโดยไม่ให้มีการลดหย่อนอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ สำหรับการจับปรับผู้กระทำผิดกรณีการขับขี่บนทางเท้าระหว่างวันที่ 9 กรกฎาคม 2561 –วันที่ 21 กรกฎาคม 2562 เจ้าหน้าที่เทศกิจรวมทุกเขตจับกุมผู้กระทำผิดได้ 20,659 ราย ว่ากล่าวตักเตือน 4,197 ราย ดำเนินคดี 14,678 ราย อยู่ระหว่างดำเนินคดี 1,784 ราย ปรับเป็นเงิน 11,179,500 บาท” นายสกลธี กล่าว

Advertisement

นอกจากนี้ นายสกลธี กล่าวว่า สำหรับกรณีที่ กทม.ได้ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแสผู้ฝ่าฝืนกระทำความผิด โดยจัดส่งภาพถ่ายแสดงป้ายทะเบียนรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์มายัง กทม. ที่ผ่านมา ให้กทม.ประสานขอข้อมูลผู้ครอบครองรถไปยังกรมการขนส่งทางบกเพื่อดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกรมการขนส่งทางบกด้วยดีเสมอมา อย่างไรก็ดี เพื่อลดภาระงานของกรมการขนส่งทางบกในการตรวจสอบข้อมูลผู้ครอบครองรถ และเพื่อให้ กทม.สามารถดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนกระทำความผิดได้ทันภายในระยะเวลาอายุความ 1 ปี กทม.ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับกรมการขนส่งทางบกเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2562 เพื่อเชื่อมโยงฐานข้อมูลทะเบียนรถกับกรมการขนส่งทางบก ซึ่งจะทำให้ กทม.สามารถใช้ระบบฐานข้อมูลเพื่อทราบผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถที่กระทำการฝ่าฝืนขับขี่หรือจอดรถบนทางเท้าได้ทันที และสามารถดำเนินการตามอำนาจหน้าที่โดยมีหนังสือเชิญผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถมาให้ถ้อยคำและดำเนินการเปรียบเทียบปรับ ทั้งนี้หากบุคคลดังกล่าวไม่มาพบภายในเวลาที่กำหนด กทม.จะดำเนินการส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันจับผู้ฝ่าฝืนได้ 83 ราย แยกเป็น ยินยอมจ่ายค่าปรับ 67 ราย ค่าปรับ 127,000 บาท อยู่ระหว่างดำเนินการ (ยังไม่ได้จ่ายค่าปรับ) 16 ราย โดยสำนักงานเขตที่จับปรับมากสุด คือ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย 14 ราย เป็นเงิน 28,000 บาท

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image