เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ที่กระทรวงแรงงาน กรณีลูกเรือไทยถูกลอยแพที่ประเทศโซมาเลีย ได้รับการช่วยเหลือโดยรัฐบาลไทยจนสามารถกลับมาไทยได้ ต่อมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำตัวลูกเรือมาสอบข้อเท็จตามขั้นตอน ก่อนส่งลูกเรือกลับภูมิลำเนาต่อไป
หนึ่งในลูกเรือ นายธนากร ชะรารัมย์ อายุ 37 ปี ชาวจ.บุรีรัมย์ เล่าว่า ตนเป็นผู้ทำหน้าที่เป็นคนอวน ซึ่งลูกเรือแต่ละคนจะมีหน้าที่ต่างกันไป ทั้งคนอวน นายท้ายเรือและเอ็นจีเนียร์ ก่อนเดินทางไปทำงาน นายจ้างได้ตกลงค่าจ้างตามตำแหน่ง ซึ่งตนจะได้รับค่าจ้างเดือนละ 15,000 บาท และได้รับค่าจ้าง 2 งวด งวดละ 5,000 บาทจาก 15,000 บาท ซึ่งตนทำได้มาได้ 5 เดือน แต่ไม่ได้รับค่าจ้างมา 4 เดือนแล้ว ตนไม่รู้ว่านายจ้างติดขัดปัญหาใด ทั้งที่ปลาที่ลากอวนได้ก็นำขึ้นฝั่งไปขายหมดแล้ว โดยนายนิธิวัฒน์ ธีระนันทกุล หรือ “เสี่ยช้าง” เป็นนายหน้าว่าจ้าง และเป็นคนพาลูกเรือทั้งหมดไปส่งที่สนามบิน ซึ่งสัญญาจ้างยังระบุเป็นชื่อเสี่ยช้าง
นายธนากร กล่าวว่า ระหว่างที่ไม่ได้รับค่าจ้าง ลูกเรือยังคงหาปลาลากอวน เพราะอยู่บนเรือไม่สามารถไปไหนได้ ตอนนั้นเครื่องกรองน้ำทะเลน้ำเค็มเป็นน้ำจืดก็ชำรุด แต่โชคดีที่มีน้ำดื่มสำรองไว้ ส่วนอาหารการกินก็ตกปลากิน เพราะปลาที่ลากอวนก็ส่งขายหมด รอบแรกที่ขายปลาได้ขึ้นฝั่งที่จีบูตี ขณะนั้นน้ำมันก็ใกล้จะหมด ไม่สามารถติดต่อกับเสี่ยช้างได้ รวมถึงยังให้ญาติโทรไปทวงถามค่าจ้าง แต่ติดต่อไม่ได้ ทางลูกเรือ จึงรู้สึกกังวลใจ
“ตอนนั้นทุกคนรู้สึกแย่มากและอยากกลับบ้าน ผมจึงตัดสินใจวิดีโอคอลกลับมาหาเพื่อนที่ไทย ชื่อ อ้อม เพื่อขอให้ประสานหน่วยงานรัฐเข้าช่วยเหลือเร่งด่วน กระทั่งได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทย โดยการนำเรือเล็กไปรับขึ้นฝั่ง ก่อนเดินทางด้วยเครื่องบินกลับมายังไทย” นายธนากร กล่าว
ด้านนายธนวัฒน์ แจ้งเวช (ปอ) อายุ 38 ปี ชาวจ.ชัยภูมิ กล่าวว่า ตนได้เดินทางไปครั้งแรก สาเหตุที่ตัดสินใจไปเป็นแรงงานประมง เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2561 เพราะเพื่อนแนะนำบอกว่าเป็นบริษัทที่วิ่งน่านน้ำอิหร่านอยู่แล้ว เพื่อนก็ทำมา 3-4 ปีก็ไม่เคยมีปัญหา ได้รายได้ดี กระทั่งเกิดปัญหาตอนเรือย้ายเรือมาลากอวนที่ไปโซมาเลีย โดยเรือประมงลำนี้ จะขึ้นปลา 2 จุดคือ จีบูติ และโบซาโซ่ ประเทศโซมาเลีย สำหรับสัญญาจ้างของตนอยู่ที่อิหร่าน แต่นายจ้างกลับให้ย้ายไปโซมาเลีย และอยู่บนเรือลำนี้มา 6 เดือนแล้ว เพราะบอกว่าปลาเยอะ และทำธุรกิจปลาน่านน้ำโซมาเลีย โดยจะมีเรือทั้งหมด 3 ลำ เดิมวิ่งอยู่น่านอิหร่าน ตอนอยู่อิหร่านจะใช้ชื่อว่า “สยาม1” “สยาม2” และ “สยาม3” พอมาลากโซมาเลียก็เปลี่ยนชื่อ “วาดานิ” โดยสยาม 2 เป็นลำที่มีปัญหา ส่วนสยาม 1 ปัจจุบันยังลากอวนอยู่ และสยาม 3 ยังติดต่อกันไม่ได้
ทั้งนี้ นายธนวัฒน์ ยืนยันว่าไม่ได้โดนทารุณกรรมแต่อย่างใด เพียงแต่ไม่ได้รับค่าจ้าง และไม่สามารถติดต่อนายจ้างได้ จึงรู้สึกกังวลใจ โดยตนจะได้ค่าจ้างรวมทั้งหมด 180,000 บาท เฉลี่ยเดือนละ 20,000 บาท แต่นายจ้างจ่ายค่าจ้าง 45,000 บาทแล้ว ปัจจุบันค้างค่าจ้างอยู่ 135,000 บาท
“ผมมีหน้าที่หาปลา ส่วนเขาจะไปขายใครผมไม่รู้ด้วยแล้ว เขาบอกให้ผมหาปลา ผมก็ปลาอย่างเดียว แต่เมื่อขายแล้ว พวกคุณก็ต้องเอาเงินค่าแรงให้ผม” นายธนวัฒน์ กล่าว
เมื่อถามว่าขณะที่อยู่ในน่านน้ำโซมาเลีย กลัวโจรสลัดหรือไม่ เนื่องจากเป็นน่านน้ำขึ้นชื่อถึงโจรสลัด ว่า ช่วงหลังข่าวก็ซาไปแล้ว แต่จะบอกว่าไม่มีก็ไม่ใช่ เพราะมีคนคุมเรือติดอาวุธ รวม 6 คน อยู่บนเรือลำเดียวกันด้วย
