กรมควบคุมโรค สั่ง 12 เขตสุขภาพ เฝ้าระวัง ‘โรค-ภัย’ ที่มากับน้ำท่วม

วันที่ 12 สิงหาคม นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. และ นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัด สธ. มีความห่วงใยและให้ความสำคัญกับความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบปัญหาทางธรรมชาติ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดประสานงานและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี และให้กรมควบคุมโรค ติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังโรคและภัยที่มากับน้ำท่วมเฉียบพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อย่างใกล้ชิด

“จากรายงานกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ช่วงนี้ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย จะมีฝนตกต่อเนื่องกับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ กรมควบคุมโรคจึงได้สั่งการไปยังกองระบาดวิทยา กองโรคติดต่อทั่วไป กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคทั้ง 12 แห่งทั่วประเทศ ติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังโรคและภัยสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในช่วงน้ำท่วม โดยจัดทีมตระหนักรู้สถานการณ์ (SAT) ตรวจจับเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมพร้อมสนับสนุนทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) ร่วมปฏิบัติงานกับหน่วยงานในพื้นที่ กรณีเกิดการระบาดของโรค และเร่งสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ในการป้องกันโรคแก่ประชาชนในพื้นที่ประสบปัญหาดังกล่าว” นพ.อัษฎางค์ กล่าว

นพ.อัษฎางค์ กล่าวต่อไปว่า ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม ระมัดระวัง ติดตามข่าวสารจากทางราชการ และเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ สำหรับโรคและภัยสุขภาพที่ต้องระมัดระวังในช่วงน้ำท่วม 1.กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ คือ โรคไข้หวัดใหญ่และโรคปอดบวม 2.กลุ่มโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ คือ โรคอาหารเป็นพิษและโรคอุจจาระร่วง และ 3.กลุ่มโรคที่มักเกิดตามมากับน้ำท่วม คือ โรคไข้ฉี่หนู โรคตาแดง และโรคไข้เลือดออก ส่วนภัยสุขภาพที่ต้องระวัง คือ สัตว์แมลงมีพิษกัด/ต่อย เช่น งู แมงป่อง ตะขาบ เป็นต้น รวมถึงต้องระวังการจมน้ำด้วย

“วิธีป้องกันโรคและภัยสุขภาพที่มากับน้ำท่วมหรือน้ำป่าไหลหลาก สามารถปฏิบัติได้โดย 1.อย่าทิ้งขยะทุกชนิด หรือขับถ่ายของเสียลงน้ำท่วมขัง ให้ทิ้งขยะหรือสิ่งปฏิกูลลงในถุงพลาสติกและมัดปากถุงให้แน่นแล้วเก็บไว้ในที่แห้ง 2.อย่าปล่อยให้เด็กเล็กลงเล่นน้ำโดยลำพัง เพราะเด็กอาจจมน้ำและช่วยเหลือไม่ทัน หรือถูกสัตว์มีพิษที่หนีน้ำมากัด ต่อยได้ 3.หากน้ำท่วมขังกระเด็นเข้าตาหรือมีฝุ่นละอองเข้าไปในตา ให้ใช้น้ำสะอาดล้างหน้าและดวงตาให้สะอาด 4.รับประทานอาหารที่ปรุงสุก ร้อน สะอาด เพื่อป้องกันโรคอาหารเป็นพิษและโรคอุจจาระร่วง และ 5.หากจำเป็นต้องเดินลุยน้ำเป็นเวลานาน ควรใส่รองเท้าบู๊ททุกครั้ง เพื่อป้องกันโรคที่มักเกิดตามมากับน้ำท่วม รีบทำความสะอาดร่างกายด้วยน้ำสะอาดและเช็ดให้แห้งทันที สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422” นพ.อัษฎางค์ กล่าว

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image