เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม เฟซบุ๊ก กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้ไลฟ์สด เพื่ออัพเดทอาการของพะยูนน้อยมาเรียม หลังจากที่มาเรียมถูกพะยูนนอกอ่าวว่ายน้ำไล่ จนตกใจจนเกิดอาการช็อก และป่วยมาหลายวันแล้วนั้น
แอดมินเพจของ ทช.อธิบายว่า วันนี้ มาเรียมอาการเริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่ค่อยกินนม พี่ๆ สัตวแพทย์ต้องให้อาหารเสริมและวิตามินบำรุงร่างกายกันหน่อย วันนี้อาจไม่ได้ live นานนะครับ เนื่องจากต้องการให้น้องมาเรียมได้พักผ่อนมากๆ
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดี ทช. กล่าวว่า อาการของมาเรียมจะดีขึ้น 100% หรือน่าไว้วางใจหรือไม่ ต้องให้สัตวแพทย์สัตว์น้ำที่ดูแลมาเรียมตรวจให้ละเอียดอีกที ถึงจะตัดสินใจสำหรับการดูแลมาเรียมในสเต็ปต่อไปว่า จะยังคงให้มาเรียมอยู่ที่เดิม หรือไปอยู่ในบ่อข้างเคียง รวมทั้งนำตัวไปไว้ที่สถาบันวิจัยสสัตว์น้ำ ที่ จ.ภูเก็ต ต้องพิจารณาจากองค์ประกอบหลายอย่าง แต่ที่เป็นห่วงที่สุดคือ องค์ประกอบที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น การมีพะยูนนอกอ่าวเข้ามาทำร้าย หรือเกิดมีมรสุมเข้ามา อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทุกฝ่ายดูแลมาเรียมดีที่สุด
“เราจัดทีมสัตวแพทย์ซึ่งมีอยู่สิบกว่าคน จัดเวรดูแล 24 ชั่วโมง เป็นกะ กะละ 4 คน ทั้งคอยดูแล คอยให้ยา ให้อาหาร และคอยระวังไม่ให้พะยูนข้างนอกเข้ามาทำร้าย ตอนนี้มาเรียมยังไม่กินนม แต่ยอมกินหญ้าทะเลบ้าง รวมกับการให้วิตามิน การเต้นของหัวใจก็ลดลงในภาวะที่ดีขึ้น สำหรับทีมสัตวแพทย์ยืนยันว่าทุกคนเต็มที่มาก เสียสละมาก และที่น่าเป็นห่วงพอๆ กับมาเรียมก็คือ ทีมสัตวแพทย์ที่ดูแลมาเรียม ท่านวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรี ทส. ท่านน่ารักมาก โทรศัพท์สายตรงมาให้กำลังใจสัตวแพทย์ที่ดูแลมาเรียมเสมอด้วยตัวเองเลย” นายจตุพรกล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทีมสัตวแพทย์จากศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน (ภูเก็ต) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าหมู่เกาะลิบงและจิตอาสากลุ่มรักษ์ดุหยง ต.เกาะลิบง ยังคงพยายามป้อนนมให้มาเรียม สลับกับการป้อนหญ้าทะเลปั่นเพื่อให้มาเรียมกินอาหารได้มากขึ้น เมื่อเย็นวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา สัตวแพทย์มีการสอดท่อให้สารน้ำวิตามินและน้ำตาลกลูโคส 200 มิลลิลิตร (มล.) ตรวจอุจจาระพบเศษหญ้าปกติ ซึ่งมาเรียมให้ความร่วมมือดีมาก มีการฉีดยาปฏิชีวนะ และยาลดการอักเสบเข้ากล้ามเนื้อ ทำให้เริ่มมีแรงและมีการตอบสนองที่ดีขึ้น
หลังเที่ยงคืน มาเรียมว่ายน้ำได้ ดำน้ำลงไปเล่นทรายใต้น้ำ อัตราการเต้นของหัวใจลดลงเฉลี่ย 92 ครั้งต่อนาที หายใจ 4 ครั้งต่อ 5 นาที แต่ยังไม่รับอาหารโดยรวม น้องมาเรียมตอบสนองดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เจ้าหน้าที่ยังคงต้องดูแลตลอด 24 ชั่วโมง และต้องประเมินอาการแบบวันต่อวัน ชนิดไม่ให้คลาดสายตาห่วงมาเรียมเจอพะยูนตัวใหญ่เข้ามาใกล้จะเกิดอาการช็อกซ้ำอีก
