ลูกเรือไทยในโซมาเลีย 14 คน กลับไทยถึงสัปดาห์หน้า อีก 6 ขอทำงานต่อกับ “นายจ้างอิหร่าน”

“หม่อมเต่า” เผยลูกเรือไทยในโซมาเลีย 14 คน กลับไทยถึงสัปดาห์หน้า อีก 6 ขอทำงานต่อกับ “นายจ้างอิหร่าน”

 

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 สิงหาคม ที่อาคารกระทรวงแรงงาน ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แถลงข่าวความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยในโซมาเลีย ว่า ในส่วนของเรือวาดานิ 2 ซึ่งมีลูกเรือจำนวน 20 คน เป็นชาวจังหวัดบุรีรัมย์ 6 คน ระนอง 3 คน สมุทรสาคร สุรินทร์ และนครพนม จังหวัดละ 2 คน ที่เหลือเป็นชาวชัยภูมิ สกลนคร อุบลราชธานี หนองคาย และอุทัยธานี จังหวัดละ 1 คน โดยจาการรายงานของ น.ส.โสพิศ หมัดป้องตัว อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทราบว่า ขณะนี้แรงงานไทยในโซมาเลียทุกคนได้รับการช่วยเหลือปลอดภัยดี และขึ้นมาจากฝั่งเรือทั้งหมดแล้ว ปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการประสานเพื่อเดินทางกลับมาประเทศไทย คาดจะถึงไทยภายในสัปดาห์หน้า

ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวว่า โดยช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายแรงงานฯ ได้เดินทางไปพบปะพูดคุยกับลูกเรือไทย ที่เมืองบันดาอับบาส ประเทศอิหร่าน และได้แจ้งให้ลูกเรือทราบถึงความห่วงใยของรัฐบาลไทย และกระทรวงแรงงาน พร้อมได้พูดคุยกับลูกเรือทั้งหมด 20 คน โดยในจำนวนนี้เป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ 7 คน เพื่อรับทราบปัญหาความทุกข์ยากเดือดร้อน และความต้องการของลูกเรือ พร้อมทั้งเจรจาหาข้อสรุปที่เหมาะสมร่วมกัน ซึ่งจากการพูดคุยพบว่า นายชารีฟ นายจ้าง ชาวอิหร่านและนายอาร์มิล บุตรชาย พบว่าไม่ใช่ผู้ที่สร้างปัญหากับลูกเรือตามที่หลายฝ่ายกังวล แต่นายชารีฟและครอบครัว ได้เข้ามาช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของลูกเรือ เนื่องจากมีความสนิทคุ้นเคยกับลูกเรือเป็นอย่างดี

Advertisement

ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวว่า ลูกเรือไทยทั้งหมด 20 คน โดยในจำนวน 14 คน แจ้งความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย ส่วน 6 คน ประสงค์ทำงานกับนายชารีฟที่ประเทศอิหร่าน ทั้งนี้ ลูกเรือไทยทั้ง 14 คน จะได้รับการช่วยเหลือจากนายชารีฟจ่ายค่าวีซ่าให้ และให้เงินเดือนล่วงหน้าเดือนสิงหาคม 1 เดือน โดยนำมาเป็นค่าตั๋วเครื่องบินกลับไทย เส้นทางเมืองบันดาอับบาส เตหะราน-กรุงเทพมหานคร เงินใช้จ่ายส่วนตัวระหว่างเดินทาง และเป็นค่าใช้จ่ายกลับภูมิลำเนา

ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวถึงการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนี้ ว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการหาข้อเท็จจริงกับแรงงานไทยที่เดินทางกลับมาแล้ว และรอตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมกับลูกเรือไทยที่กำลังจะเดินทางกลับมาภายในสัปดาห์หน้า เพื่อติดตามเรื่องค้างจ่ายค่าจ้างว่าใครเป็นนายจ้าง ซึ่งเบื้องต้นลูกเรือไทยทั้งหมดไม่ได้รับค่าจ้างขณะทำงานอยู่ที่ประเทศโซมาเลีย ส่วนขณะทำงานอยู่ที่ประเทศอิหร่าน นายจ้างไม่มีปัญหาค้างจ่ายค่าจ้าง รวมถึงการดำเนินการยื่นเรื่องร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ยักยอกเงิน ตลอดจนยื่นเรื่องขอรับการช่วยเหลือจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ ที่จะได้รับการช่วยเหลือตามระเบียบ เป็นค่าพาหนะ (ในต่างประเทศ) ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่นที่จำเป็น เท่าที่จ่ายไม่เกินจริง 30,000 บาท ส่วนลูกเรืออื่นที่ไม่ได้เป็นสมาชิกกองทุนฯ จะประสานรับเงินสงเคราะห์ ช่วยเหลือเยียวยาจากกระทรวงความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับภูมิลำเนา

ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวว่า กรณีที่ประเทศไทยใช้อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายแรงงานฯ ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เนื่องจากไทยไม่มีอัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายแรงงานฯ ประจำโซมาเลีย และอัครราชทูตไทยประจำโซมาเลีย เมื่อเกิดปัญหาขึ้น ช่วงแรกทำให้ขั้นตอนการเข้าช่วยเหลือลูกเรือมีอุปสรรค จะหาใครไปก็ไม่มีใครอยากไป กระทั่งตนบอกว่าจะเดินทางเอง แต่ไม่ได้เดินทางไป เนื่องจากได้มีการประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ ก่อนต่อมาเกิดการยกระดับความช่วยเหลือลูกเรือไทยในโซมาเลียขึ้น

Advertisement

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการสอบสวนข้อเท็จจริง นายนิธิวัฒน์ ธีระนันทกุล หรือ เสี่ยช้าง บุคคลที่ลูกจ้างระบุว่าเป็นนายหน้าว่าจ้างและพาลูกเรือทั้งหมดไปส่งนั้น เบื้องต้นไม่พบความผิดว่านายนิธิวัฒน์ หลอกลวงลูกจ้าง เนื่องจากได้ดำเนินการจ่ายค่าจ้าง และดำเนินการตามสัญญาจ้างไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริงกับลูกเรือเพิ่มเติม.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image