แพทย์แผนไทย ถก 13 รพ.พร้อมจ่าย “ยาศุขไสยาศน์-น้ำมันเดชา” ดีเดย์ 2 ก.ย.นี้

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 26 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการส่งเสริมและพัฒนาการใช้ตำรับนาแผนไทยที่มีกัญชาปรุงผสมอยู่ ในการจัดตั้งคลินิกกัญชาทางการแพทย์แผนไทย ระหว่างวันที่ 26-27 สิงหาคม ที่ห้องประชุม 1 อาคาร 1 กรมการแพทย์แผนไทยฯ ให้แก่ผู้บริหารระดับสูงของโรงพยาบาล (รพ.) การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน เพื่อเตรียมความพร้อมกระจายยาตำรับยาแผนไทยที่มีกัญชาปรุงผสมอยู่ จำนวน 2 ตำรับ ได้แก่ ยาศุขไสยาศน์ และน้ำมันกัญชา สูตรนายเดชา ศิริภัทร หรือ อาจารย์เดชา หมอพื้นบ้าน และประธานมูลนิธิข้าวขวัญ จ.สุพรรณบุรี ผ่านโรงพยาบาล 13 แห่ง ในวันที่ 2 กันยายนนี้

นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ เปิดเผยว่า ได้เชิญผู้อำนวยการ และผู้บริหารของ 13 โรงพยาบาลที่ให้บริการการแพทย์แผนไทย มาประชุมจัดทำคู่มือการเตรียมพร้อมการให้บริการตำรับยาแผนไทยที่มีกัญชาปรุงผสมอยู่ รวม 16 ตำรับ และน้ำมันกัญชาสูตรนายเดชา วิธีการคัดกรองผู้ป่วยเพื่อใช้ยา รวมถึงการจัดทำแนวทางการรักษาและความพร้อมสถานพยาบาลในการรักษา โดยเฉพาะ 1.การใช้ยากัญชาของผู้ป่วยจะต้องปลอดภัย และผู้ให้บริการทางการแพทย์จะต้องรู้ถึงข้อบ่งชี้ ข้อบ่งใช้และข้อห้ามในการใช้ จะต้องมีความรู้และความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน และ 2.การติดตามประสิทธิภาพในการรักษาในด้านแพทย์แผนไทย เช่น ผลข้างเคียง ผลดีในการรักษาโรคต่างๆ โดยใน 16 ตำรับ กรมการแพทย์แผนไทยฯ จะกระจายยาศุขไสยาศน์ไปยังโรงพยาบาลต่างๆ จากนั้นจะติดตามผลการใช้ควบคู่การวิจัย AUR (Actual Use Research) เพื่อนำข้อมูลมาเป็นประโยชน์ในการศึกษาวิจัยต่อไป

นพ.มรุต กล่าวว่า ส่วนน้ำมันกัญชาสูตรนายเดชา จะต้องได้รับการวิจัยอย่างเต็มรูปแบบในเชิงสังเกตการณ์ (Observational) ซึ่งน้ำมันกัญชาจะต้องจัดทำเป็นมาตรฐานทั้งผลิตภัณฑ์ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการผลิตน้ำมันกัญชาสูตรดังกล่าว ขณะที่นายเดชาได้เห็นชอบวิธีการผลิตของกรมแพทย์แผนไทยฯ ตามสูตรตำรับที่ผ่านการรับรองของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ ขณะเดียวกัน ยังอยู่ระหว่างสำรวจกลุ่มผู้ป่วยที่อยู่ในการวิจัย และกลุ่มผู้ป่วยห้ามใช้

Advertisement

นพ.มรุต กล่าวว่า คาดว่ากลางสัปดาห์นี้ กรมการแพทย์แผนไทยฯ จะทยอยจัดส่งยาไปยัง 13 โรงพยาบาล เพื่อให้เตรียมความพร้อมในการเปิดคลินิกกัญชาทางการแพทย์แผนไทย ในวันที่ 2 กันยายน ซึ่งความพร้อมในการให้บริการนั้นก็ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงพยาบาล เช่น การเตรียมพร้อมแพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ควบคู่กับการแผนปัจจุบัน โดยเฉพาะน้ำมันกัญชาสูตรนายเดชาที่ต้องทำควบคู่ไปพร้อมกับการวิจัย ตลอดจนติดตามเก็บข้อมูลผู้ป่วยทั้งในส่วนผลข้างเคียง ผลดีต่อการรักษาโรค โดยกรมการแพทย์แผนไทยฯ ไม่มีข้อบังคับว่าจะต้องเปิดตามกำหนดวันดังกล่าว นอกจากนี้ ภายหลังจ่ายยากัญชาตำรับศุขไสยาศน์ไปแล้ว ในส่วนของการผลิต 5 ตำรับต่อมา ปริมาณการผลิต จะต้องดูปริมาณของกลางกัญชาแห้งที่ได้ประสานไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพิ่มเติม ขณะที่ของกลางกัญชาแห้ง 1,000 กิโลกรัม (กก.) ที่ได้รับเพื่อผลิตน้ำมันกัญชานายเดชา ก่อนหน้านี้นั้นเมื่อได้ผลผลิตแล้ว จะนำไปตรวจสารปนเปื้อนโลหะหนัก แคดเมียม ว่า ปลอดภัยสำหรับผู้ป่วย จึงจะสามารถจ่ายยาถึงมือผู้ป่วยได้

นพ.มรุต กล่าวถึงกลุ่มผู้ป่วยใช้ยาตำรับไทยว่า มีความแตกต่างกับกลุ่มผู้ป่วยแพทย์แผนปัจจุบัน โดยกลุ่มผู้ป่วยแพทย์แผนไทยจะเป็นกลุ่มใหญ่ เนื่องจากการวินิจฉัยโรคจะช่วยให้ผู้ป่วยใช้ยาตำรับยาไทยตามศาสตร์แพทย์แผนไทย เช่น ยาศุขไสยาศน์ ใช้สำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการอ่อนเพลีย กินอาหารไม่ได้ และนอนไม่หลับ ยาจึงใช้กับผู้ป่วยได้เป็นวงกว้าง ส่วนน้ำมันกัญชาสูตรนายเดชา ได้มีข้อบ่งชี้พอสมควร ต่างจากการแพทย์แผนปัจจุบัน ซึ่งยาสารสกัดกัญชาจะใช้ได้กับกลุ่มผู้ป่วย 4 โรค ที่รักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล และมีจำนวนผู้ป่วยแต่ละกลุ่มโรคจำกัด

“อย่างไรก็ตาม การใช้ยาตำรับไทย จะต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง โดยเงื่อนไขแรกที่ผู้ป่วยจะเข้ารับการรักษากับคลินิกกัญชาแพทย์แผนไทย จะต้องเปิดเผยข้อมูลผู้ป่วย เพื่อให้แพทย์ติดตามผลการรักษาได้ และเพื่อพิสูจน์ว่ามีความปลอดภัย และผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น รวมถึงเพื่อนำข้อมูลจัดทำวิจัยเฉพาะโรค” นพ.มรุต กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การจ่ายยาของคลินิกจะพิจารณาจ่ายยาตำรับใดก่อนนั้น นพ.มรุต กล่าวว่า สำหรับกลุ่มผู้ป่วยมีหลายกลุ่ม โดยผู้ป่วยที่มารับบริการทางคลินิกกัญชาทางแพทย์แผนไทย สามารถใช้ยาศุขไสยาศน์ หรือน้ำมันสูตรเดชา ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ตามความเหมาะสมของอาการ หรืออาจจะพิจารณาการใช้สมุนไพรตำรับอื่น ซึ่งมีส่วนช่วยในการรักษาอาการต่างๆ โดยแพทย์จะใช้ศาสตร์การแพทย์แผนไทย ดูธาตุเจ้าเรือนเฉพาะตัว และอาการโรคของแต่ละคน

“นอกจากนี้ ในส่วนของผู้ป่วยที่วอล์กอินเข้าไปยังคลินิกฯ เพื่อขอรับเฉพาะยาที่มีกัญชาปรุงผสม ขอให้เปิดใจกว้างเพื่อให้แพทย์ได้วินิจฉัย และตัดสินใจในการจ่ายยาเหมาะสมกับผู้ป่วย ส่วนผู้ที่ได้ลงทะเบียนไว้กับนายเดชา เพื่อขอรับยาน้ำมันกัญชา สามารถติดต่อรับยาจากโรงพยาบาลได้ ซึ่งกรมการแพทย์แผนไทยฯ ประกาศรายชื่อโรงพยาบาลอย่างเป็นทางการอีกครั้ง” นพ.มรุต กล่าว

ทั้งนี้ สำหรับ ข้อบ่งใช้ของตำรับยาศุขไสยาศน์ จะช่วยให้ผู้ป่วย นอนหลับ เจริญอาหาร โดยส่วนประกอบของตำรับยาศุขไสยาศน์ ประกอบด้วยการบูร 1 กรัม (ก.) ใบสะเดา 2 ก. หัสคุณเทศ 3 ก. สมุลแว้ง 4 ก. เทียนดำ 5 ก. โกฐกระดูก 6 ก. ลูกกาจันทร์ 7 ก. บุนนาค 8 ก. พริกไทย 9 ก. ขิงแห้ง 10 ก. ดีปลี 11 ก. และใบกัญชา 12 ก. โดยวิธีการใช้ ใช้รับประทานครั้งละ 2 ก. วันละ 1 ครั้งก่อนนอน หรือผสมน้ำผึ้งรวง หรือ น้ำต้มสุกผสมใช้ดื่ม ส่วนข้อห้ามการใช้ ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร ผู้ที่มีไข้ และผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยห้ามใช้ร่วมกับยาที่มีฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลางเช่น ยานอนหลับ และ ยาต้านการชักรวมทั้งแอลกอฮอล์ หรือสิ่งที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image