‘ท็อป’ ส่ง ‘หนูนา’ เคลียร์ปัญหาชาวบ้าน ‘บ่อแก้ว’ ยืดเวลาบังคับคดีอีก 30 วัน

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่ชุมชนบ่อแก้ว อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ คณะทำงานยุทธศาสตร์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นำโดย น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ที่ปรึกษาคณะทำงานฯ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งตามคำสั่ง ทส. มีอำนาจหน้าที่ในการประสานงานในหน่วยงานองค์กรต่างๆ เพื่อรวบรวมข้อมูล ผลการศึกษา พิจารณาวิเคราะห์กลั่นกรองงาน รวมทั้ง เสนอความคิดเห็น ให้คำปรึกษาแนะนำ และปฏิบัติงานอื่นๆ ตามที่ ทส.มอบหมาย ได้ลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน หมู่บ้านบ่อแก้ว อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ก่อนที่ชาวบ้านจะถูกหมายบังคับคดีจากการฟ้องร้องขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ให้ออกจากพื้นที่ในวันที่ 27 สิงหาคมนี้

โดยเมื่อ น.ส.กัญจนา เดินทางไปถึง นายนิด ต่อทุน ตัวแทนชาวบ้านชุมชนบ่อแก้วที่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ได้ชี้แจงปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านให้ น.ส.กัญจนา รับทราบ โดยระบุว่า พื้นชุมชนบ่อแก้วนั้นเป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านได้อยู่ทำกินมาตั้งแต่บรรพบุรุษตั้งแต่ปี 2496 จนกระทั่ง ปี 2516 รัฐบาลได้ประกาศเขตป่าสงวนแห่งชาติ ภูซำผักหนามทับที่ทำกินของชาวบ้าน และ อ.อ.ป.ได้เข้ามาดำเนินการปลูกสร้างสวนป่าคอนสาร เนื้อที่ 4,401 ไร่ โดยได้นำไม้ยูคาลิปตัสมาปลูกเป็นแปลงป่าและฟ้องร้องขับไล่ชาวบ้านให้ออกจากพื้นที่ทำกินของตนเอง โดยขณะนี้มีชาวบ้านซึ่งเป็นผู้เดือดร้อนกว่า 103 ราย ซึ่งชาวบ้านเหล่านี้ถือครองที่ดินทำกินมาตั้งแต่บรรพบุรุษ

Advertisement

ขณะที่นายปุ่น พงษ์สุวรรณ ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า สู้เรื่องนี้มายาวนาน เดินทางไปกรุงเทพมหานครบ่อยครั้งมาก จนวันนี้เกือบจะสู้ไม่ไหว

“เรามีมติแล้วว่าให้ยกเลิกสวนป่าคอนสาร ที่ทับที่ทำกินของชาวบ้าน ซึ่งทุกคนทุกรัฐบาลก็เห็นเหมือนกัน แต่ อ.อ.ป.ก็ไม่ยอม แล้วยังสั่งฟ้องบังคับคดีพวกเราด้วย ทำให้พวกเราไม่ได้ทำมาหากิน มีแต่สู้อย่างเดียว และลูกหลาน ก็อดๆ อยากๆ การทำงานของเราก็ไม่เป็นปกติ ทุกข์ทรมานมาก จนไม่มีอะไรที่ทุกข์ทรมานไปมากกว่านี้แล้ว จึงอยากให้ ทส. แก้ไขปัญหาพวกเราให้จบสิ้นโดยเร็ว อย่าให้พวกเราไปติดคุกติดตาราง เพราะข้อเท็จจริงทุกอย่างชัดเจนแล้ว”นายปุ่น กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านจำนวนมากที่เป็นผู้เดือดร้อนได้นำเอกสารหลักฐานสิทธิทำกินมาให้ น.ส.กัญจนา ได้รับทราบด้วย

น.ส.กัญจนา กล่าวว่า เป้าหมายที่มาในครั้งนี้ อยากให้ชาวบ้านทุกคนอยู่กับป่าได้อย่างมีความสุข ภาครัฐเคยสัญญาอะไรไว้ก็ให้ว่าไปแบบนั้น ถ้าเคยอยู่มาก่อน แล้วมีการประกาศป่าสงวนฯ ทับที่ดินทำกิน ถ้าจะมีการไล่อย่างไม่เป็นธรรม ถือว่าไม่ถูกต้อง ส่วนตัวเคยพูดเสมอว่า รัฐบาลที่ดีต้องดูแลทุกข์สุขของประชาชน ไม่นำความเดือดร้อนมาให้บ้านเรือน ที่อยู่อาศัย จะให้ออกไปอย่างไม่เป็นธรรม เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการ ทส. มีเป้าหมายแรกที่ต้องการทำ คือ การดูแลทุกข์สุขของประชาชนที่ยากจน และชาวบ้านที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ขณะเดียวกัน ต้องรักษาผืนป่าไปด้วย ซึ่งได้ตั้งคณะทำงานฯ ขึ้นมาทำงานลงลึกในแต่ละด้าน รวมทั้งดูแลปัญหาที่ดินทำกินของประชาชนด้วย โดยจะมีการประชุมครั้งแรกวันที่ 30 สิงหาคมนี้ และปัญหาชาวบ้านคอนสารก็จะนำเข้าที่ประชุมด้วย และจะมีคณะย่อยลงมาพื้นที่เพื่อแก้ปัญหาด้วยเช่นกัน เบื้องต้นยืดเวลาออกไปอีก 1 เดือน ระหว่างนี้ก็จะแก้ปัญหาให้ชาวบ้านไปด้วย

ขณะที่ตัวแทนชาวบ้านหลายคน พยายามบอก น.ส.กัญจนาว่า กลัวจะเป็นเหมือนเดิม เพราะทุกรัฐบาลก็ให้คำมั่นสัญญา แต่ไม่ทำตามที่สัญญา สุดท้ายก็ต้องมีการต่อสู้ เพื่อทวงสิทธิที่ดินทำกินจนเกิดความยืดเยื้อ แต่ น.ส.กัญจนา ยืนยันให้ดูที่การกระทำเป็นหลัก

หลังจากที่พูดคุยกับชาวบ้านบ่อแก้ว ตัวแทนจาก อ.อ.ป.ที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องชาวบ้านได้เดินทางเข้ามาร่วมรับฟังการพูดคุยของชาวบ้าน และ น.ส.กัญจนาด้วย โดยนายปราโมทย์ ผลภิญโญ ที่ปรึกษาเครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน ได้ส่งมอบเอกสารการเสียภาษีที่ดินให้ น.ส.กัญจนา พิจารณา พร้อมสอบถาม อ.อ.ป.ว่า ที่ผ่านมา เวลามีคำถามไปที่ อ.อ.ป. ถึงการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ อ.อ.ป.จะให้คำตอบว่า อำนาจตัดสินใจของ อ.อ.ป.ขึ้นอยู่กับนโยบายผู้บังคับบัญชา ถ้าให้ยกเลิก ก็จะยกเลิก และว่า สมัยที่รองผู้อำนวยการ อ.อ.ป. พูดเมื่อปี 2552 บอกว่า อ.อ.ป.ไม่มีปัญหา ซึ่งเป็นรัฐบาลสมัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยมอบหมายให้ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ลงพื้นที่ และมีความเห็นพ้องกันว่าจะนำพื้นที่ 1,500 ไร่ มาดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกฯ ว่าด้วย เรื่องการจัดโฉนดที่ดินชุมชน กระทั่งมีข้อตกลงร่วมกัน ระหว่าง อ.อ.ป.กับชาวบ้าน วันที่ 2 มีนาคม 2554 เรื่องการไม่เร่งรัดบังคับคดีที่ดิน 1,500 ไร่ และเรื่องการจัดโฉนดชุมชน โดยให้ทุกฝ่ายลงมาพื้นที่ร่วมกัน จนดูพื้นที่ได้ 4 แปลง เป็นพื้นที่ประมาณ 500 ไร่ จากนั้นก็มีการยุติจนล่าสุดชาวบ้านและเครือข่ายกว่า 31 คน ก็ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี และจะถูกหมายบังคับคดีให้ออกจากพื้นที่ในวันที่ 27 สิงหาคมนี้

จากนั้น น.ส.กัญจนา ได้สอบถามตัวแทน อ.อ.ป.ว่าเหตุใดเสียภาษีแล้วยังมีปัญหา ตัวแทน อ.อ.ป.ชี้แจงว่า เรื่องนี้มีการฟ้องร้องเกิดขึ้น โดยผ่านกระบวนการทางศาล จึงจัดกำลังลงพื้นที่ ตั้งแต่ปี 2552 และพยายามเจรจา แต่ก็ถูกต่อต้านจนศาลตัดสินเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2553 ให้รื้อสิ่งปลูกสร้างออกทั้งหมด ซึ่งต้องทำตามคำสั่งศาล ซึ่ง น.ส.กัญจนา แย้งว่าทราบว่าก่อนหน้านี้ อ.อ.ป.ได้เคยออกกสำรวจพื้นที่ทำกินของชาวบ้านแล้ว และก็มีหลักฐานชัดเจนว่าชาวบ้านอยู่มาก่อน เหตุใดฟ้องร้องชาวบ้านอีก อ.อ.ป.ชี้แจงว่า พบชาวบ้านบางส่วนเป็นครอบครัวขยายและรุกล้ำที่ดิน จึงต้องมีการไล่ที่เรียกคืน แต่ชาวบ้านลุกขึ้นแย้งว่า อ.อ.ป.ให้ข้อมูลเท็จ

นายปราโมทย์ กล่าวว่า หลังจากนี้ จะดำเนินการจัดกำลังเฝ้าระวังจนกว่าจะมีความมั่นใจว่า อ.อ.ป.ประสานไปยังกรมบังคับคดี ที่มีลายลักษณ์อักษรชัดเจน และภายใน 1 เดือนนี้ ที่ น.ส.กัญจนาให้คำมั่นกับชาวบ้านว่าจะมีการเลื่อนบังคับคดี พร้อมทั้งตั้งชุดทำงานมาศึกษาเรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านยังแสดงความกังวลว่า ในวันที่ 27 สิงหาคมนี้ จะถูก อ.อ.ป.ไล่ที่ จึงขอความชัดเจนและเรียกร้องให้ อ.อ.ป.ประสานไปยังกรมบังคับคดียุติการไล่ที่ชาวบ้าน ทั้งนี้ น.ส.กัญจนาได้ต่อสายตรงไปยังผู้อำนวยการ อ.อ.ป.ให้เร่งประสานไปยังกรมบังคับคดีระงับเรื่องไว้ชั่วคราว โดยยืดเวลาบังคับคดีชาวบ้านออกไป 30 วัน

“วันที่ 27 สิงหาคมนี้ ห้ามมีการขับไล่ชาวบ้าน เพราะอยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหา ถ้ากฎหมายบีบราษฎรก็ไม่ควรใช้กฎหมายนั้น แต่เราควรทำภายใต้การปกครองที่อยู่กันอย่างมีความสุข เรื่องนี้มันเกิดขี้นมานานแล้ว แต่แก้ไขอย่างไรก็ไม่จบ” น.ส.กัญจนา กล่าวและว่า ในการประชุมคณะทำงานยุทธศาสตร์ฯ จะมีการพิจารณาว่าพื้นที่ 830 ไร่ ที่มีการขอกันพื้นที่ออกมาทำกินจะสามารถให้ชาวบ้านเข้าไปทำกินได้หรือไม่

ขณะที่นายสมศักดิ์ วิเชียรชัยชาญ ผอ. อ.อ.ป.ภาค 6 กล่าวยืนยันว่า วันที่ 27 สิงหาคมนี้ จะไม่ดำเนินการฟ้องร้องบังคับคดีชาวบ้านเด็ดขาด โดยจะเลื่อนออกไป 30 วัน

ด้านนายวราวุธ กล่าวว่า ได้แต่งตั้งคณะทำงานยุทธศาสตร์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มี น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา เป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน และวันนี้ได้ส่ง น.ส.กัญจนา ไปสืบราชการลับในพื้นที่ชุมชมบ่อแก้วด้วยและเรื่องนี้จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะทำงานฯ ในวันที่ 30 สิงหาคมนี้ เบื้องต้นได้ขอชะลอการบังคับภายใน 1 เดือน ซึ่งปัญหาดังกล่าวจะต้องได้ข้อสรุปภายในเดือนกันยายนนี้

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image