เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กลุ่มหมอนวดแผนไทย นำโดย น.ส.ปราณปรียา โสณะโชติ และทนายความ นำรายชื่อหมอนวดแผนไทย 17,247 รายชื่อ เข้ายื่นข้อเรียกร้องต่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ สธ. และ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการ สธ. ขอให้ช่วยเหลือเยียวยาหมอนวดที่ยังไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ตั้งแต่ปี 2559 โดยมี นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการ สธ. นพ.ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดี สบส. และ นพ.ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้อำนวยการกองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สบส. รับเรื่อง พร้อมเปิดให้หารือราว 1 ชั่วโมง
น.ส.ปราณปรียา กล่าวว่า มีหมอนวดที่ผ่านการอบรมตั้งแต่ปี 2559 จำนวนหนึ่งไม่สามารถขึ้นทะเบียนกับ สบส. จึงไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ขณะนี้ผ่านมากว่า 3 ปี ยังไม่ได้รับคำตอบ แม้กระทั่งมีใบรับคำขอขึ้นทะเบียนรับรองสถานประกอบกิจการเพื่อสุขภาพ (สพส.13) มีเลขการรับขึ้นทะเบียนจากเจ้าหน้าที่แล้ว ก็ยังไม่สามารถทำงานได้เช่นกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทั่วประเทศ ไม่ออกใบรับรองการเป็นหมอนวดให้
“หากจะบอกว่าพบพิรุธมีการปลอมใบรับรองการผ่านการอบรม ก็ควรไปดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายในส่วนนั้น” น.ส.ปราณปรียา กล่าว
ด้าน นพ.ม.ล.สมชาย กล่าวว่า ปัญหานี้รับทราบ และสั่งการให้ สบส.ออกหนังสือคำสั่งให้มีการรับรองหมอนวดที่ถือใบ สพส.13 ที่ยังตกค้างอยู่ทั้งหมด เพื่อให้สามารถประกอบวิชาชีพนวดได้ อย่างไรก็ตาม ย้ำว่าการขอขึ้นทะเบียน หมอนวดที่ยื่นความประสงค์ต้องมาดำเนินการด้วยตัวเอง ไม่สามารถมอบตัวแทนไปดำเนินการได้ ยกเว้นหากผ่านการรับรองแล้ว สามารถให้ผู้แทนไปรับมอบใบรับรองแทนได้ หรือแจ้งต่อเจ้าหน้าที่เพื่อให้จัดส่งเอกสารดังกล่าวไปให้ แต่ส่วนนี้จะต้องมีค่าใช้จ่ายในการจัดส่งเอกสารเพิ่มเติม
นพ.ภัทรพล กล่าวว่า หลังพบปัญหาเรื่องใบรับรองการอบรมหมอนวด ทำให้กระทบกับการขึ้นทะเบียน แต่ สบส.ได้เร่งตรวจสอบและทยอยขึ้นทะเบียนหมอนวดกลุ่มที่มีปัญหาไปกว่า 1 แสนรายแล้ว ขณะนี้ก็มีการออกใบรับรองการขึ้นทะเบียนกว่า 8,000 ใบ
“ยืนยันว่า ใบ สพส.13 สามารถใช้แทนใบรับรองตัวจริงได้ หมอนวดที่ถือเอกสารดังกล่าวอยู่สามารถประกอบวิชาชีพนวดได้” นพ.ภัทรพล กล่าวและว่า สบส.จะเร่งดำเนินการออกหนังสือกำชับไปยัง สสจ.ทั่วประเทศอีกครั้ง
