ฟัน!! ‘วีเอ็ม’ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ขาดต่ออายุ แถมพบสารอันตราย

เมื่อวันที่ 5 กันยายน นพ.พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สงขลา ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างอาหารจากสถานที่จำหน่ายเพื่อส่งตรวจวิเคราะห์คุณภาพมาตรฐาน ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 12 ผลการตรวจสอบพบวีเอ็ม (VM) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ฉลากระบุเลขสารบบอาหาร 13-125561-50004 รุ่นวันผลิต 08/03/2019 วันหมดอายุ 08/03/2021 ผลิตโดย บริษัท นันทะพล จำกัด เลขที่ 38/14 หมู่ 2 ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ซึ่งสถานะผลิตภัณฑ์ถูกยกเลิก แต่สถานะใบอนุญาตสถานที่คงอยู่ และวีเอ็ม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ฉลากระบุเลขสารบบอาหาร 13-1-05459-5-0176 รุ่นวันผลิต 10/10/2018 วันหมดอายุ 10/10/2020 ผลิตโดย บริษัท ฟู้ด ซายน์ ซัพพลาย เซอร์วิส จำกัด เลขที่ 99/29 หมู่ 2 ต.สามโคก อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ซึ่งไม่ปรากฏข้อมูลผลิตภัณฑ์ในระบบตรวจสอบการอนุญาตของ อย. และสถานะของสถานที่ผลิตเลขสถานที่ 13-1-05459 ขาดต่ออายุ ตั้งแต่วันที่ 03/01/2562 นอกจากนี้ยังพบว่าผลิตภัณฑ์ ทั้ง 2 รายการ ตรวจพบสารไซบูทรามีน

นพ.พูลลาภ กล่าวว่า ไซบูทรามีนถือเป็นสารอันตราย โดยเฉพาะต่อผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด
โรคความดันโลหิต โรคหลอดเลือดสมองตีบ โรคตับ โรคไต โรคต้อหิน หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร
โดยผลข้างเคียงจากการใช้ไซบูทรามีน เช่น นอนไม่หลับ ปวดศีรษะ วิตกกังวล ฯลฯ ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นเร็ว และหากได้รับในปริมาณมากอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จึงได้ออกประกาศฯ กำหนดให้ไซบูทรามีนเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2559 ซึ่งหากผลิต นำเข้า หรือ ส่งออกผลิตภัณฑ์ที่มีไซบูทรามีนเป็นส่วนผสมจะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี และปรับตั้งแต่ 500,000 – 2,000,000 บาท หากขายจะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี และปรับตั้งแต่ 400,000 – 2,000,000 บาท รวมถึงการครอบครองผลิตภัณฑ์ดังกล่าวก็ถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายด้วย

รองเลขาธิการฯ อย. กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารวีเอ็ม เข้าข่ายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค จึงขอเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อซื้อมากินโดยเด็ดขาด หากต้องการลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคและควบคุมอาหาร รวมทั้งออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ปัจจุบันมียาชนิดอื่นที่ใช้ในการลดน้ำหนักและมีความปลอดภัยมากกว่าไซบูทรามีน แต่ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ และย้ำถึงผู้ประกอบการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากตรวจพบการกระทำผิด อย.จะประสานความร่วมมือกับหน่วยงานปราบปรามที่เกี่ยวข้อง เพื่อกวาดล้างและจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีอย่างเข้มงวดต่อไป

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image