‘จักษุแพทย์’ เตือนอย่าเชื่อ ‘ปัสสาวะ’ หยอดตารักษาโรค ชี้เสี่ยงบอด

วันที่ 15 กันยายน นพ.มานัส โพธาภาณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกระแสเรื่องการใช้น้ำปัสสาวะบำบัดรักษาโรคและอาการเจ็บป่วย บาดแผลต่างๆ โดยกล่าวอ้างว่าเป็นยามหัศจรรย์ สามารถรักษาโรคต่างๆ ให้หายได้ เช่น ตาอักเสบ ต้อเนื้อ ต้อลม ฯลฯ โดยการใช้น้ำปัสสาวะหยอดตาหรือกรอกตา ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์รับรองว่าสามารถนำมาใช้รักษาโรคได้ จึงอยากให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร เพราะอาจก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี และพึงตระหนักว่าไม่มียาวิเศษใดๆ สามารถรักษาได้ทุกโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับดวงตาที่เป็นอวัยวะบอบบาง หากเกิดการอักเสบติดเชื้อ อาจส่งผลต่อการมองเห็นอย่างถาวรได้

พญ.สายจินต์ อิสีประดิฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวถึงการใช้น้ำปัสสาวะบำบัดว่า ขณะนี้ยังไม่มีงานวิจัยทางคลินิกที่น่าเชื่อรองรับว่ารักษาโรคได้จริง แต่ปัสสาวะ คือ ของเสียในรูปของเหลวที่ผลิตออกจากไต โดยกระบวนการกรองจากเลือดและขับออกจากท่อปัสสาวะ มีปริมาณ 1 ลิตรต่อวัน องค์ประกอบของปัสสาวะร้อยละ 95 เป็นน้ำ ร้อยละ 2.5 เป็นยูเรีย และที่เหลือประกอบด้วยสารเคมีอื่นๆ โดยปัสสาวะอาจมีสีแตกต่างกันตามปริมาณน้ำ ตั้งแต่ใสไม่มีสี จนถึงสีเข้มในกรณีดื่มน้ำน้อย ทำให้มีของเสียปะปนกับปัสสาวะมาก

Advertisement

“โดยทั่วไปปัสสาวะมีความเป็นกรดเล็กน้อย (ph6.0) อาจมีความเป็นกลางหรือด่างได้ ขึ้นกับปริมาณน้ำ อาหาร และยาที่บริโภค โดยมีค่าความเป็นกรดด่าง 4.6-8.0 ดังนั้น หากนำมาหยอดตาอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองตา ตาแดง มีแผลถลอกที่ตาเสมือนสารเคมีเข้าตา นอกจากนี้ ปัสสาวะที่ออกมาตามท่อปัสสาวะ อาจปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา หากนำมาหยอดตา อาจมีเชื้อโรคเข้าสู่ผิวตา ทำให้เกิดภาวะเยื่อบุตาอักเสบ โรคตาแดง มีขี้ตา ตามัว หากอาการลุกลามรุนแรง อาจเกิดภาวะกระจกตาอักเสบ ปวดตา ตาแดง หากรักษากระจกตาอักเสบไม่ทัน การติดเชื้อที่กระจกตาลุกลาม อาจต้องผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา หรือสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรได้ โดยเฉพาะผู้ที่ผิวกระจกตาไม่ดีอยู่เดิม เช่น ตาแห้ง ใส่คอนแทคเลนส์ และมีแผลถลอกที่กระจกตา ยิ่งมีความเสี่ยง” พญ.สายจินต์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image