กทม.ยืดเวลาสร้างเขื่อนคลองลาดพร้าว หลังผู้รับจ้างส่อแววทิ้งงาน-บ้านรุกล้ำดื้อย้าย

เมื่อวันที่ 25 กันยายน ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.)  แหล่งข่าวจากศาลาว่าการกทม. แจ้งว่า ขณะนี้สำนักการระบายน้ำ (สนน.) อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดในการขออนุมัติขยายเวลาในการก่อสร้างเขื่อนคลองลาดพร้าว ให้กับบริษัท ริเวอร์ เอนจิเนียริ่ง จำกัด ผู้รับจ้างในโครงการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมในเหล็ก(ค.ส.ล.) และประตูระบายน้ำ คลองลาดพร้าว คลองบางบัว คลองถนน คลองสอง และคลองบางซื่อ จากบริเวณเขื่อนเดิมอุโมงค์ยักษ์พระรามเก้า–รามคำแหง ไปทางประตูระบายน้ำคลองสองสายใต้ ความยาว 22.65 กิโลเมตร รวมทั้งก่อสร้างเขื่อนสองฝั่งคลองเป็นระยะทาง 45.30 กิโลเมตร ครอบคลุม 8 เขต วงเงิน 1,645 ล้านบาท ภายหลังจากสัญญาการก่อสร้างที่ได้ลงนามไปเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2559 และเริ่มเข้าสู่กระบวนการก่อสร้างในวันที่ 16 มกราคม 2559 สิ้นสุดเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2562 ทั้งนี้ สำนักการระบายน้ำ จะขยายเวลาสัญญาในการก่อสร้างออกไปอีก 300 วัน ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาในเดือนเมษายน 2563 แต่ปัจจุบันผู้รับจ้างฯ กลับไม่มีคนงานและเครื่องจักรขนาดใหญ่ เข้าพื้นที่ มีเพียงอุปกรณ์ก่อสร้างบางส่วนที่วางตั้งไว้เฉยๆเท่านั้น ทำให้การก่อสร้างเขื่อนคลองลาดพร้าวเป็นไปอย่างล่าช้า ประกอบกับปัจจุบันยังมีบ้านเรือนประชาชน ที่รุกล้ำ ยังไม่ยอมออกจากพื้นที่ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามสัญญาด้วย

แหล่งข่าว แจ้งว่า ดังนั้นภายในสัปดาห์หน้า สำนักการระบายน้ำ จะทำหนังสือติดตามให้ผู้รับจ้าง เข้ามาดำเนินการก่อสร้างเขื่อนคลองลาดพร้าว ในพื้นที่ที่มีการส่งมอบแล้ว พร้อมทั้งติดตามให้ผู้รับจ้าง ร่วมลงนามในการขยายเวลาสัญญาในการก่อสร้างออกไปอีก 300 วัน หากผู้รับจ้างยังเพิกเฉย สำนักการระบายน้ำ จะทำหนังสือแจ้งยกเลิกสัญญาการก่อสร้างเขื่อนคลองลาดพร้าว เป็นเวลา 2 ครั้ง ก่อนจะขออนุมัติบอกเลิกสัญญาการก่อสร้างเขื่อนคลองลาดพร้าว ซึ่งคาดว่าภายในกลางเดือนตุลาคมนี้ จะสามารถขออนุมัติบอกเลิกสัญญาการก่อสร้างเขื่อนคลองลาดพร้าวกับผู้รับจ้างได้ อย่างไรก็ตามหากในอนาคตมีการเลิกสัญญาการก่อสร้างเขื่อนคลองลาดพร้าว สำนักการระบายน้ำ จะต้องเข้าสู่กระบวนการสรรหาตัวผู้รับจ้างรายใหม่ ตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 คาดว่ากระบวนการดังกล่าวจะใช้เวลา 2 ปี จึงจะสามารถหาตัวผู้รับจ้างราใหม่ได้ แต่ภาพรวมการก่อสร้างเขื่อนคลองลาดพร้าว มีหลายหน่วยงาน เข้ามามีส่วนร่วม ดังนั้นถ้าทุกภาคส่วนร่วมกันทำงานอย่างบูรณาการ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาจะรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม

Advertisement

ด้านนายศักดิ์ชัย บุญมา รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า เชื่อว่าผู้รับจ้างคงไม่กล้าทิ้งงาน เพราะหากมีการทิ้งงานจริง ผู้รับจ้างจะถูกขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทิ้งงาน และไม่สามารถทำงานต่างๆ ของส่วนราชการได้อีกต่อไป

ทั้งนี้ ส่วนความคืบหน้าโครงการนั้น ปัจจุบันมีการส่งมอบพื้นที่แล้ว 26,008 เมตร ต้องตอกเสาเข็มได้ 23,310 เมตร จำนวนเสาเข็มที่ต้องตอก 34,726 ต้น ปัจจุบันตอกเสาเข็มได้แล้ว 30,857 ต้น คิดเป็นร้อยละ 88.86 คงเหลืออีก 3,869 ต้น ในพื้นที่ 2,699 เมตร จึงจะแล้วเสร็จในส่วนที่เป็นพื้นที่ที่มีการส่งมอบ

สำหรับพื้นที่ที่ยังไม่ได้ส่งมอบ 19,292 เมตร จะต้องตอกเสาเข็มอีก 25,274 ต้น อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ ซึ่งสาเหตุการส่งมอบพื้นที่ไม่ต่อเนื่องเกิดจากยังมีผู้รุกล้ำไม่ให้ความร่วมมือกระจายตัวอยู่ในพื้นที่ อีก 502 หลัง ซึ่ง กทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันเร่งเจรจาทำความเข้าใจควบคู่กับการดำเนินการตามกฏหมาย โดยใช้กฎหมายประกาศคณะปฏิวัติ(ปว.) 44 เพื่อให้สำนักงานเขตพื้นที่นั้นๆ มีอำนาจเข้ารื้อย้ายบ้านเรือนที่รุกล้ำคลองลาดพร้าวได้ทันที ส่วนผู้รับจ้างที่ดำเนินการอย่างล่าช้า กทม.จะมีการประชุมติดตามเร่งรัดการทำงานของผู้รับจ้างทุกสัปดาห์

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image