หมอหม่องโพสต์ สะเทือนโลก ไม่มีใครต้องการหัวนกเงือก เท่านกเงือกอีกแล้ว
กรณีที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ออกแถลงข่าวเรื่องการล่า นกชนหิน ซึ่งเป็น 1 ใน 13 ชนิด ของนกเงือก ที่กำลังจะสูญพันธุ์ไปจากประเทศไทย โดยเวลานี้เหลืออยู่เพียงไม่เกิน 100 ตัว กระจายในพื้นที่อนุรักษ์ 3 แห่ง คือ อุทยานฯบูโด-สุไหงปาดี เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง และจากการติดตามข้อมูลการสร้างรังโดยมูลนิธินกเงือกแห่งประเทศไทยในพื้นที่อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 – 2562 พบนกชนหินทำรังสำเร็จเฉลี่ยปีละ 2 รัง และในปี 2562 จากการติดตามข้อมูลของสถานีวิจัยสัตว์ป่าคลองแสงในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสงพบนกชนหินทำรังสำเร็จ 1 รัง โดยทีมนายพรานล่านกเงือก นกชนหิน ได้เอาส่วน หัว และ โหนก มาขาย สนนราคาขายหัวละ 10,000 บาท
จากการสำรวจติดตามเป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 – เมษายน 2562 พบมีการโพสต์เสนอขายอย่างน้อย 236 โพสต์ที่เสนอขายชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์จากนกเงือกมากกว่า 546 ชิ้นใน 32 กลุ่มจากทั้งหมด 40 กลุ่ม และนกชนหินคิดเป็นสัดส่วน 83% จากชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์นกเงือกทั้งหมด แบ่งเป็น 8 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ โหนกหัว, จี้ห้อยคอ, แหวน, สร้อยคอ, กำไลข้อมือ, หัวเข็มขัด, นกสตาฟ และชิ้นส่วนย่อยอื่นๆ เครื่องประดับที่พบบางส่วนถูกประดับตกแต่งด้วยชิ้นส่วนของสัตว์ป่าอื่นๆนั้น
ล่าสุด วันที่ 28 กันยายน นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ อาจารย์แพทย์โรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และประธานชมรมอนุรักษ์นกและธรรมชาติล้านนา ได้โพสต์เฟชบุ๊ก พร้อมภาพ หัว และส่วนจงอยปากนกเงือกจำนวนมาก ซึ่งนายพรานตัดเอามาขาย และพ่อค้าเอาไปดัดแปลงทำเป็นหัวแหวน พร้อมเอามาประกาศขายในโซเซียล ซึ่งภาพดังกล่าว สร้างความสะเทือนใจแก่คนอ่านอย่างมาก
โดยนพ.รังสฤษฎ์ ได้โพสต์ ข้อความที่สะเทือนใจแก่ผู้อ่านเป็นอย่างยิ่ง ความว่า
ไม่มีใครต้องการหัวนกเงือก เท่านกเงือกอีกแล้ว
หยุดความบ้าคลั่งนี้เสียที
หยุดการค้าสัตว์ป่า
หยุดขายชีวิต
ภาพจาก เฟชบุ๊ก Rungsrit Kanjanavanit
