เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม รศ.ทัศนา บุญทอง นายกสภาการพยาบาล และกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้สภาการพยาบาลได้ร่วมมือกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นำร่องขยายบริการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยให้คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์เข้าร่วมเป็นหน่วยบริการในเครือข่ายของ สปสช. รับผิดชอบเรื่องการป้องกันโรค การให้คำแนะนำด้านสุขภาพต่างๆ ตลอดจนการเยี่ยมบ้าน เบื้องต้นมีคลินิกการพยาบาลฯ เข้าร่วมโครงการนำร่อง 9-10 แห่ง โดยจะประเมินการทำงานไปเรื่อยๆ เพื่อปรับปรุงรูปแบบการให้บริการให้เหมาะสม เพื่อประเมินผลว่าโครงการนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลผู้ป่วยได้ทั่วถึงเพียงใด หากได้ผลเป็นที่น่าพอใจก็จะขยายขอบเขตการดำเนินงานให้มากขึ้น
“เป้าหมายของ สปสช.คือ ทำอย่างไรให้ประชาชนทุกคนได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และมีมาตรฐาน ยิ่งปัจจุบันจำนวนผู้สูงอายุมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ให้นอนโรงพยาบาลตลอดไปก็ไม่ได้ ผู้สูงอายุหลายคนมีโรคเรื้อรัง ติดบ้านติดเตียงและจำเป็นต้องได้รับการดูแล ดังนั้นต้องขยายการดูแลดีและทั่วถึงมากขึ้น ซึ่งโครงการนี้มีลักษณะเหมือนกับการรับยาที่ร้านขายยาที่ขึ้นทะเบียนเป็นเครือข่ายกับ สปสช. เพื่อลดความแออัดและลดระยะเวลาการรอคอยในโรงพยาบาล โดยคลินิกการพยาบาลฯ ช่วยในเรื่องการเยี่ยมบ้าน การให้คำปรึกษา ฯลฯ” รศ.ทัศนา กล่าวและว่า คลินิกที่เข้าโครงการต้องมีมาตรฐานตามที่สภาวิชาชีพกำหนด โดยสภาการพยาบาลจะเป็นพี่เลี้ยงดูแลเรื่องต่างๆ ให้ได้มาตรฐาน
รศ.ทัศนา กล่าวว่า ในส่วนของกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ระเบียบเกี่ยวกับการจ่ายค่าตอบแทนนั้น อยู่ระหว่างดำเนินการ บางส่วนก็มีอยู่แล้ว เช่น การเยี่ยมบ้านให้รายละ 200 บาท แต่บางเรื่องต้องดูในรายละเอียดว่ามีเรื่องอะไรบ้าง
ด้าน นพ.จักรกริช โง้วศิริ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า สปสช.สนับสนุนทุกวิชาชีพเข้าเป็นหน่วยร่วมให้บริการ โดยเฉพาะวิชาชีพพยาบาลที่มีความสำคัญอย่างมากในการดูแลผู้ป่วย และเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาระบบสาธารณสุขของไทย
