อากาศดีมาก 22 สถานี อธิบดีคพ.ชี้ ฝุ่นเท่าเดิม ความกดอากาศมาเมื่อไหร่ ก็จะมีปัญหาอีก
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 2 ตุลาคม นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ(คพ.) รายงานคุณภาพอากาศค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ พีเอ็ม 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยคพ. ร่วมกับกรุงเทพมหานคร ตรวจพบปริมาณฝุ่นละออง พีเอ็ม 2.5 ตรวจวัดได้ระหว่าง 15 – 43 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ปริมาณฝุ่นละอองได้ลดลงในทุกพื้นที่จนกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยมีคุณภาพอากาศในเกณฑ์ดีมาก เพิ่มขึ้นจากเมื่อช่วงกลางวันจากจำนวน 20 พื้นที่ เป็นจำนวน 22 พื้นที่ คุณภาพอากาศดีจำนวน 22 พื้นที่ ลดลงเหลือ 13 พื้นที่ และคุณภาพอากาศปานกลาง จำนวน 6 พื้นที่ เหลือจำนวน 5 พื้นที่ ทำให้สถานการณ์ฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว
อธิบดีคพ. ระบุอีกว่า จากรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยาประจำวันที่ 2 ตุลาคม 2562 รายงานว่า ในช่วงบ่ายพื้นที่ กทม.และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ในหลายพื้นที่ ซึ่งจะช่วยให้สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก พีเอ็ม 2.5 กลับสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้คพ. ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศในพื้นที่ กทม.และปริมณฑลอย่างต่อเนื่อง
นายประลอง กล่าวว่า ไม่สามารถบอกหรือชี้ชัดได้ว่า ฝุ่นขนาด 2.5 ไมครอน หรือ พีเอ็ม 2.5 จะเป็นมลพิษประจำฤดูหรือไม่ เพราะทุกวันนี้ประเทศไทยผลิตฝุ่นขนาด 2.5 ไมครอนในปริมาณเท่าเดิมเกือบทุกวัน นั่นคือ เกิดจากยานพาหนะ 54% และเกิดจากการเผาไหม้ในที่โล่ง อีก 35% ที่เหลือมาจากอื่นๆ เช่นโรงงานอุตสาหกรรม การก่อสร้าง ทั้งนี้ในกทม.มีปริมาณรถยนต์ 2.8 ล้าน คัน ที่ใช้น้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดปริมาณฝุ่นขนาด 2.5 ไมครอน
“หากเป็นสถานการณ์ปกติไม่มีอะไรมาครอบ มากด อากาศโปร่งโล่ง มีลมพัด ฝุ่นพวกนี้มันก็กระจายตัวลอยออกไปได้ แต่เมื่อใดที่มีความกดอากาศเข้ามาลมไม่พัด ฝุ่นพวกนี้ไม่รู้จะไปไหนมันก็สะสม ซึ่งความกดอากาศสูงก็มักจะเกิดช่วงฤดูหนาว ราวพฤศจิกายน ถึง มกราคม อย่างไรก็ตาม หากเราสามารถลดปริมาณแหล่งกำเนิดมลพิษเหล่านี้ได้ แม้จะมีความกดอากาศแค่ไหนก็ไม่มีผลกับการเพิ่มขึ้นของปริมาณฝุ่น 2.5 ไมครอน”อธิบดี คพ.กล่าว