กรณีที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมกับหน่วยวานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการประชุมเพื่อประเมินของเจ้าหน้าที่ในการเก็บกู้ซากช้างป่า ซึ่งคาดว่าน่าจะมีความยากลำบากเนื่องจากบริเวณที่ซากช้างป่าอยู่เป็นพื้นที่เข้าถึงได้ยาก และด้วยกระแสน้ำที่มีความเชี่ยวกรากเนื่องจากฝนที่อาจตกลงมาเพิ่ม จึงจำเป็นต้องกางตาข่ายดักซากบริเวณคลองต้นไทร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่สามารถเข้าถึงได้ใกล้ที่สุด เพื่อรอให้ซากช้างลอยมาตามกระแสน้ำ ซึ่งช้างบางตัวมีโอกาสที่จะอืดและแตกออกก่อนที่จะลอยมาถึงจุดตาข่าย ซึ่งช้างแต่ละตัวมีน้ำหนักประมาณ 3,000 กก. อย่างไรก็ตามหลังจากพบช้างตายเพิ่มอีก 5 ซาก รวมเป็น 11 ซาก จึงต้องมาประเมินแผนอีกครั้งว่าจะติดตั้งตาข่ายเพิ่มเติมหรือไม่อย่างไรบ้าง เพราะระยะทางจุดที่เจอซากช้างแต่ละจุดนั้นเข้าถึงได้ยากลำบากนั้น
ล่าสุด เวลา 22.44 น.วันที่ 8 ตุลาคม นายวิทยา หงส์เวียงจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 ปราจีนบุรี กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า นายปกครอง ทองเนื้อแข็ง หัวหน้าศูนย์รายงานศูนย์กู้ภัยอุทยานแห่งชาติที่ 3 จังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า ได้ร่วมกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และมูลนิธิในท้องที่จังหวัดนครนายกร่วมติดตั้งตาข่ายเพื่อเตรียมดักซากช้างก่อนที่จะไหลลงสู่เขื่อนขุนด่านปราการชล โดยได้ทำการติดตั้ง เป็นที่เรียบร้อยจำนวน 1 จุด
