“อนุทิน” ประชุมทางไกล “ผอ.รพ.-นพ.สสจ.” ทั่วประเทศ ลั่นเสียงไม่แตกแบน 3 สารเคมี

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. พร้อมด้วย นายสาธิต ปิตุเดชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการ สธ. นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัด สธ. ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา กรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.) พิจารณาศึกษาแนวทางควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎร และบุคลากรทางการแพทย์ ร่วมประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอร่วมกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั่วประเทศ (ผอ.รพ.) นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ทั่วประเทศ ผ่านศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข แสดงความขอบคุณและเป็นกำลังใจที่โรงพยาบาลในสังกัด สธ.ที่ขึ้นป้ายต่อต้านสารเคมีอันตราย 3 ตัว ทั้งคลอร์ไพริฟอส พาราควอต และไกลโฟเซต พร้อมร่วมกันแสดงจุดยืนในการแบนสารเคมีดังกล่าว

หลังการประชุม นายอนุทิน แถลงว่า การขึ้นป้ายปฏิเสธสารพิษ ถือว่าเป็นจุดยืนร่วมกันของ สธ. มิใช่เพียงแต่ผู้บริหารจะเอาจริงกับเรื่องนี้ แต่บุคลากรทุกคนก็เอาด้วย

“นี่เป็นข้อความที่ชัดเจนว่าคณะกรรมการวัตถุอันตรายของ สธ.ทั้งปลัดกระทรวงฯ และเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โหวตแบนสารพิษแน่นอน นี่ยังเป็นสัญญาณถึงคณะกรรมวัตถุอันตรายคนอื่นๆ ได้ตระหนักถึงจุดยืนของ สธ. แพทย์ และพยาบาล ไม่ต้องการรักษาอาการป่วยจากสารพิษ ต้องการทุ่มเทไปที่โรคภัยตามธรรมชาติมากกว่า ต้องช่วยกันแก้ที่ปลายเหตุ

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องการแบนสารพิษ มีนายทุนผู้นำเข้าสารทดแทนอยู่เบื้องหลังหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง นี่คือวาระด้านสุขภาพของคนไทย และสารตัวใหม่ที่นำมาใช้ หากเป็นสารพิษ มีอันตรายกับประชาชน ก็พร้อมจะเข้าไปจัดการ เพราะสุขภาพของคนไทยเป็นเรื่องสำคัญที่สุด

“ยืนยันว่าไม่มีผลประโยชน์ในการใช้สารทดแทน เพราะ 3 สารเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และหวังว่าการแสดงจุดยืนในครั้งนี้ของ สธ. จะส่งไปถึงคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่จะมีการประชุมในเร็วๆ นี้ เพื่อให้พิจารณาถึงผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนเป็นสำคัญ ทั้งนี้ 2 เสียงของ สธ.โหวตโนแน่นอน ไม่สนับสนุนการใช้ 3 สาร ผมไม่อยากเห็นการใช้งบประมาณสาธารณสุขไปรักษาประชาชนที่ได้รับอันตรายจากสารเคมี 3 ตัว ที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ขณะที่การหาสารทดแทนที่จะนำมาใช้นั้น ยืนยันได้ว่าไม่มีนายทุนอยู่เบื้องหลัง และไม่มีผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น ซึ่งผมก็ไม่เห็นด้วย และไม่สนับสนุน หากการใช้สารทดแทนตัวอื่นจะทำร้ายสุขภาพประชาชน ซึ่งหากการใช้สารทดแทน ก็ต้องเป็นสารที่ปลอดภัยต่อสุขภาพประชาชน” นายอนุทิน กล่าว

Advertisement

ด้าน ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวถึงอันตรายของสารเคมีที่มีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ว่า จากการลงพื้นที่พบมีผู้เสียชีวิตจากโรคหนังเน่าเนื้อเน่า มีผู้ป่วยมะเร็ง โรคสมอง พาร์กินสัน ซึ่งขณะนี้พบว่ากำลังมีการพยายามระบายสต็อกของสารเคมี

“แต่ถ้าหากผลการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติแบนสารเคมีเหล่านี้ จะมีผลให้ห้ามนำเข้า ส่งออก และผลิต สารเคมีตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป ใครที่ซื้อแล้วหากมีการระงับ หมายความว่า ใช้ไม่ได้ ห้ามทิ้งในน้ำ ต้องเอาไปส่งคืนที่ทางการ สั่งของมาแล้วไม่ใช้ เมื่อประกาศเป็นวัตถุอันตรายไม่สามารถมาฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้” ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าว

ขณะที่นายสาธิต กล่าวว่า ภารกิจหน้าที่และพันธกิจหลักของ สธ. ที่สำคัญคือ การดูแลสุขภาพของคนไทย ซึ่งได้รับรายงานจากกรมอนามัยว่า สารเคมีอันตรายทั้ง 3 สาร เป็นปัญหาและส่งผลต่อสุขภาพของประชาชน รวมทั้งเด็กในครรภ์มารดา จึงไม่เห็นด้วยกับการใช้สารเคมีเหล่านี้ การรวมกันแสดงพลังในวันนี้สิ่งสำคัญแสดงถึงภาวะผู้นำของรองนายกรัฐมนตรีที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจคือ ดูแลสุขภาพของคนไทยทั้งประเทศ และได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจน จึงขอร่วมให้กำลังใจ และขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันแสดงพลังสำคัญที่เราต้องดูแลสุขภาพของพี่น้องประชาชน

นพ.สุขุม กล่าวว่า สธ.ประกาศจุดยืนในการดูแลสุขภาพประชาชน ไม่สนับสนุนสิ่งที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ทำลายสุขภาพ พร้อมเป็นกำลังสนับสนุนเพื่อพี่น้องประชาชนคนไทยมีสุขภาพที่ดี ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ สธ.

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image