“พิษสุนัขบ้า” คร่าอีก 1 ราย ที่ จ.บุรีรัมย์ กรมควบคุมโรคแนะปชช.ยึด “คาถา 5 ย.” ลดความเสี่ยง

กรมควบคุมโรค รายงานผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า 1 ราย ที่ จ.บุรีรัมย์ เผยปีนี้ยอดตายลดลงแต่ยังต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในปี 2562 ว่า ล่าสุดกรมควบคุมโรคได้รับรายงานพบผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าเพิ่มขึ้นอีก 1 ราย เป็นเพศชาย อายุ 32 ปี ที่ จ.บุรีรัมย์ ถือเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 3 ของปีนี้ โดย2 รายแรกอยู่ที่ จ.สุรินทร์ และ จ.นครศรีธรรมราช จากการสอบสวนโรคพบว่า ผู้เสียชีวิตมีประวัติดื่มเหล้าเป็นประจำ ซึ่งญาติให้ข้อมูลว่าผู้เสียชีวิตถูกสุนัขกัดหลายครั้ง แต่ไม่ได้ไปพบแพทย์เพื่อรับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

“ถึงแม้ว่าผู้เสียชีวิตในปีนี้จะลดลงกว่าปีที่ผ่านมาหลายเท่า โดยปี 2561 มีผู้เสียชีวิต 18 ราย แต่ประชาชนต้องระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะโรคนี้เป็นได้ทุกฤดูกาล เป็นได้ตลอดทั้งปี” นพ.สุวรรณชัย กล่าวและว่า โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน ซึ่งเชื้อเข้าทางบาดแผล ผ่านทางกัด ข่วน เลีย หรือสัมผัสกับน้ำลายของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมทุกชนิดที่มีเชื้อนี้ เช่น สุนัข แมว หนู ลิง ค้างคาว สัตว์ที่พบเป็นโรคพิษสุนัขบ้าบ่อยที่สุด คือ สุนัข รองลงมา คือ แมว เมื่อคนรับเชื้อแล้ว เชื้อจะเพิ่มจำนวนในบาดแผล จากนั้นจะเดินทางเข้าสู่ระบบประสาท โดยระยะฟักตัวขึ้นอยู่กับตำแหน่งและปริมาณเชื้อที่ได้รับ เช่น ขา แขน หรือใบหน้า โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2 สัปดาห์ ถึง 2 เดือน บางรายอาจนานถึง 1 ปี อาการส่วนใหญ่มักมีไข้ ปวดศีรษะ คันรุนแรงบริเวณบาดแผล คลุ้มคลั่ง กลัวแสง กลัวลม กลืนน้ำหรืออาหารลำบาก เมื่อผู้ติดเชื้อแสดงอาการแล้วจะไม่สามารถรักษาให้หายได้ ต้องเสียชีวิตทุกราย ดังนั้น ต้องป้องกันตนเองจากโรคพิษสุนัขบ้า และปฏิบัติตนให้ถูกต้องหลังสัมผัสโรค อย่าชะล่าใจเมื่อสัตว์ข่วนหรือกัด ให้รีบพบแพทย์ทันที

นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับประชาชนเจ้าของสัตว์เลี้ยงควรปฏิบัติ 1.เจ้าของสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว ต้องนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีน ครั้งแรกเมื่อสัตว์เลี้ยงมีอายุ 2-4 เดือน แล้วฉีดซ้ำตามกำหนดทุกปี 2.ไม่ปล่อยสัตว์เลี้ยงออกนอกบ้านตามลำพัง โดยไม่ใส่สายจูง 3.พาสุนัขหรือแมวที่ตนเลี้ยงไปทำหมันเมื่อไม่ต้องการให้มีลูก รวมถึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยทำหมันสุนัข/แมวที่ไม่มีเจ้าของ และ 4.ลดความเสี่ยงถูกสุนัขกัดหรือทำร้าย ด้วยการยึดหลักคาถา 5 ย. คือ อย่าแหย่ ให้สุนัขโมโห โกรธ อย่าเหยียบ หาง หัว ตัว ขา หรือทำให้สุนัขหรือสัตว์ต่างๆ ตกใจ อย่าแยก สุนัขที่กำลังกัดกันด้วยมือเปล่า อย่าหยิบ ชามข้าวหรือย้ายอาหารขณะที่สุนัขกำลังกินอาหาร และ อย่ายุ่ง หรือเข้าใกล้กับสุนัขหรือสัตว์ต่างๆ นอกบ้านที่ไม่มีเจ้าของหรือไม่ทราบประวัติ

Advertisement

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ประชาชนที่ถูกสุนัขหรือแมว หรือแม้กระทั่งลูกสุนัข ลูกแมว กัด ข่วน หรือเลียบริเวณแผล แม้เพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลือดออกที่แผลก็อย่าได้ชะล่าใจ ต้องรีบล้างแผล ใส่ยา กักหมา หาหมอ ฉีดวัคซีนให้ครบชุด คือ เมื่อถูกสุนัขกัด ห้ามบีบเค้นบาดแผล ให้ล้างแผลด้วยน้ำและสบู่ให้สะอาด ล้างเบาๆ นานอย่างน้อย 10 นาที จากนั้นใส่ยาเบตาดีน และ กักสุนัข/แมวที่กัดเพื่อดูอาการอย่างน้อย 10 วัน และรีบไปพบแพทย์ เพื่อวินิจฉัยการรับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า วัคซีนชนิดนี้ต้องได้รับหลายครั้ง จึงขอให้ไปตามที่แพทย์นัดทุกครั้ง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน โทร.1422

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image