เจ้าท่า-ป่าไม้ สั่งรื้อร้านอาหาร เทปูนคอนกรีตล้ำคลองเขาหลวง ภายใน 5 วัน
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ ชมรม strong-จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดนครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความและภาพกรณีปัญหาร้านอาหารและร้านค้ารุกลำน้ำ หลังจากมีการสั่งรื้อที่คลองท่าดี ชุมชนคีรีวง ล่าสุดยังมีการเปิดเผยการกระทำผิดในลักษณะเดียวกัน โดยระบุว่า พบอีกเทคอนกรีตลงคลอง ที่น้ำตกท่าแพ (อุทยานแห่งชาติเขาหลวง) ต.ช้างกลาง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ทำเป็นเพิงพัก กางร่มตั้งโต๊ะกินกันในน้ำรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ โดยระบุว่า ชมรมฯเปิดประเด็นสิ่งล่วงล้ำลำน้ำคีรีวง และสังคมออกมาติดตามให้มีการรื้อถอนตามที่ได้ทราบกันไปแล้วนั้น ล่าสุดพบอีกที่รุกล้ำลำน้ำเหมือนกัน แถมบางร้านยังเอาศาลาที่พักที่ทำไว้ให้ชาวบ้านได้ไปนั่งพักผ่อน มาทำเป็นร้านอาหารหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองซะงั้น หน่วยงานตรวจสอบเร่งแก้ไขด่วน โดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติเขาหลวงทำอะไรกันอยู่ ถึงได้ปล่อยปละละเลยให้มีการบุกรุกไปเรื่อยๆ
นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ เปิดเผยว่า ภายหลังได้รับรายงานดังกล่าว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำโดย นายวีรยุทธ ขนุนนิล นายอำเภอช้างกลาง พร้อมด้วยปลัดอำเภอ หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครองอำเภอช้างกลาง ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาจังหวัดนครศรีธรรมราช ป้องกันจังหวัดนครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติเขาหลวง ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลช้างกลาง กำนันตำบลช้างกลางและผู้ใหญ่บ้าน ได้ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏทันที ในช่วงค่ำของวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยผลการตรวจสอบพบว่าบริเวณดังกล่าวไม่ได้ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวง แต่ตั้งอยู่นอกเขตพื้นที่ ซึ่งอยู่ในบริเวณน้ำตกนอกอุทยานฯ เนื่องจากอุดมสมบูรณ์มาก จึงมีน้ำตกและลำธารรายล้อมอยู่บริเวณโดยรอบอุทยานฯ ลักษณะคล้ายน้ำตกคลองท่าดี
นายชีวะภาพกล่าวว่า นอกจากนี้ ภาพถ่ายที่ถูกโพสต์ในเฟซบุ๊กดังกล่าว ยังไม่ได้เป็นภาพถ่ายปัจจุบัน แต่เป็นภาพเก่า อาจเป็นภาพถ่ายในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวปีที่แล้ว ระหว่างช่วงเทศกาลปีใหม่จนถึงช่วงสงกรานต์ที่จะมีนักท่องเที่ยวนิยมมาท่องเที่ยวพักผ่อนจำนวนมาก และผู้ประกอบการได้เปิดร้านค้าบริการอาหารให้แก่นักท่องเที่ยว โดยขณะนี้ไม่พบมีการนำร่มมากางบริเวณลำน้ำดังกล่าว เนื่องจากช่วงนี้น้ำในคลองท่าแพมีปริมาณมาก ท่วมพื้นที่ และมีน้ำขุ่น แต่จากการตรวจสอบในส่วนของร้านค้าปรากฏว่ามีผู้ประกอบการเทปูนคอนกรีตและก่อสร้างหลังคาเพิงรุกล้ำลงในคลองท่าแพจริง จำนวน 2 ราย ได้แก่ 1.นางบุปผา นราวงษ์ อายุ 48 ปี แสดงตัวเป็นของ โดยได้เทคอนกรีต และก่อสร้างเพิงรุกล้ำลำคลอง บริเวณแรก ขนาดกว้าง 4 เมตร ยาว 12 เมตร เป็นพื้นที่ 51.60 ตร.ม. และบริเวณที่ 2 ขนาดกว้าง 4 เมตร ยาว 6.3 เมตร เป็นพื้นที่ 25.2 ตร.ม. รวมพื้นที่ลุกล้ำ 76.6 ตร.ม. และ 2.นายนรภัทร ยิ่งแย้ม ไม่พบอยู่ในพื้นที่ แต่พบมีการเทพื้นคอนกรีต และก่อสร้างหลังคาเพิงพักยื่นออกไปรุกล้ำลำคลอง รวม 4 จุด คือ จุดที่ 1 ขนาดกว้าง 4 เมตร ยาว 3.5 เมตร เป็นพื้นที่ 14 ตร.ม. จุดที่ 2 ขนาดกว้าง 3.6 เมตร ยาว 12.5 เมตร เป็นพื้นที่ 45 ตร.ม. จุดที่ 3 ขนาดกว้าง 3.8 เมตร ยาว 14.2 เมตร เป็นพื้นที่ 53.96 ตร.ม. และจุดที่ 4 ขนาดกว้าง 1.5 เมตร ยาว 2.7 เมตร เป็นพื้นที่ 4.05 ตร.ม. รวมพื้นที่รุกล้ำ 117.01 ตร.ม. โดยทั้งสองแห่งตั้งอยู่บริเวณหน้าร้านอาหาร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานการทำงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ
“ล่าสุด ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าส่วนภูมิภาค สาขาจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการดำเนินการทุบรื้อถอนสิ่งก่อสร้างที่รุกลำน้ำให้แล้วเสร็จภายใน 5 วัน เนื่องจากพื้นที่ลำน้ำดังกล่าวเป็นลำธาร พื้นที่สาธารณประโยชน์ที่ใช้ร่วมกัน” นายชีวะภาพกล่าว
ภาพจาก เฟซบุ๊กแฟนเพจ ชมรม strong-จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดศรีธรรมราช
