เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 21 ตุลาคม ที่ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว นายมนตรี คำพล นายกสมาคมเกษตรกร ชายแดนบูรพา พร้อมด้วยเกษตรกรชาวไร่อ้อยกว่า 1,000 คน เข้าพบนายณัฎฐชัย นำพูลสุขสันติ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เพื่อยื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์ช่วยเหลือราคาอ้อยฤดูกาลผลิตปี 2562/2563 ตกต่ำ ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
นายมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ใกล้ฤดูการผลิตอ้อยและน้ำตาลทรายฤดูการผลิต ปี 2562/ 2563 ซึ่งก่อนการเปิดหีบผลิตอ้อย และน้ำตาลทราย กระทรวงอุตสาหกรรมซึ่งเป็นกระทรวงหลักในการบริหารอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย โดยคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย จะทำการกำหนดราคาอ้อย เพื่อจ่ายค่าอ้อยให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยส่งโรงงานน้ำตาลทรายตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ 2527 แต่จากการประเมินสถานการณ์ราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลกขณะนี้ยังอยู่ในช่วงตกต่ำ และทำให้เกิดวิกฤตราดาดังกล่าว ได้เกิดขึ้นติดต่อกันมาเป็นปีที่ 3 และหากสถานการณ์ราคายังเป็นอยู่เช่นนี้ การกำหนดราคาอ้อยในฤดูกาลผลิตปี 2562 /2563 ราคาอ้อยจะไม่เกินตันละ 700 บาท ขณะที่ต้นทุนการปลูกอ้อยอยู่ที่ตันละ 1,131 บาท ประกอบกับปัจจุบันค่าเงินบาทแข็งตัวมากขึ้น ราคาอ้อยยิ่งตกต่ำลงอีก จนทำให้เกษตรกร ชาวไร่อ้อยขาดทุนต่อเนื่องมากกว่า 3 ปี
นายมนตรี กล่าวว่า หากไม่มีการแก้ไขเยียวยาต่อกรณีปัญหาดังกล่าว เกษตรกรที่ปถูกอ้อยซึ่งมีมากกว่า 400,000 ครัวเรือน ทั้งประเทศจะประสบปัญหามาก รายได้ไม่พอการดำรงชีพและประสบปัญหาการขาดทุนติดต่อกันหลายปี เป็นการซ้ำเติมหนี้สินให้เพิ่มมากขึ้น นำไปสู่สภาวะล้มละลายทางอาชีพทำกินและครอบครัวตามมา ดังนั้น สมาคมเกษตรกรชายแดนบูรพา มีสมาชิกในพื้นที่ จ.สระแก้ว จ.ปราจีนบุรี จ.ฉะเชิงเทรา จึงขอความอนุเคราะห์จากรัฐบาลได้พิจารณาหาแนวทางเพิ่มราคาอ้อยที่ตกต่ำในฤดูกาลนี้ให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยได้รับค่าอ้อยตันละ 1,000 บาท ที่ความหวาน 10 ซี.ซี.เอส. ซึ่งจะเป็นการสอดรับกับนโยบายพรรคร่วมรัฐบาลที่เคยสัญญาประกาศกับพี่น้องชาวไร่อ้อยไว้ก่อนการเลือกตั้งที่ผ่านมาแล้วด้วย กำหนดให้มีการแก้ไขปัญหาระยะยาว และแนวทางบริหารจัดการผลิตอ้อยแบบใหม่ ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อแก้ไขปัญหาแรงงาน การลดใช้สารเคมี
นายณัฎฐชัย กล่าวว่า จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ขอยืนยันเรื่องนี้ถึงนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน เพราะว่าจะใกล้ฤดูกาลที่จะเปิดหีบอ้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม จังหวัดสระแก้วจะติดตามเรื่องกรณีราคาอ้อยตกต่ำเป็นพิเศษด้วยเพราะจังหวัดมีโรงงานหีบอ้อยถึง 2 แห่ง มีพื้นที่ปลูกอ้อยจำนวนมากอีกด้วย
นายช่วยจิตร เภาคำ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 177 หมู่ 15 ต.ศาลาลำดวน อ.เมือง จ.สระแก้ว กล่าวว่า การยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือครั้งนั้ เป็นความหวังของเกษตรกรผู้ปลูกอ้อย ที่ผ่านมาชาวไร่อ้อยแบกรับภาระขาดทุนมาถึง 3 ปี ถ้ารัฐบาลจริงใจกับเกษตรกรผู้ปลูกก็ให้หันมาแก้ไขปัญหาให้กับพวกผมที่เป็นรากหญ้า ปีนี้ขอให้ราคาอ้อยขึ้นมาตันละ 1,000 บาท ก็จะทำให้พวกขาดทุนน้อยลงและจะได้มีทุนเดินหน้าปลูกอ้อยเป็นอาชีพหลักต่อไป
