ฉลาดซื้อ สุ่มตรวจของเล่นเด็ก อึ้ง ‘ตุ๊กตายางบีบ’ สารทาเลต เกินมาตรฐาน เสี่ยงระบบสืบพันธุ์

ภาพประกอบ

ฉลาดซื้อ สุ่มตรวจของเล่นเด็ก อึ้ง ‘ตุ๊กตายางบีบ’ สารทาเลต เกินมาตรฐาน เสี่ยงระบบสืบพันธุ์

ฉลาดซื้อเผยผลตรวจ ของเล่นของใช้พลาสติกพีวีซีในท้องตลาด ทั้งที่มีและไม่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์ มอก. พบสารทาเลตเกินมาตรฐานความปลอดภัยสหภาพยุโรป กว่าร้อยละ 35 แพทย์เตือนอันตรายจากสารทาเลตในของเล่นพลาสติก เพียงสัมผัสก็เสี่ยงทำฮอร์โมนเด็กชายผิดปกติ ชี้เด็กไทยควรได้รับความปลอดภัยจากของเล่นเหมือนเด็กต่างประเทศ เร่งสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) รีบออกประกาศข้อบังคับเพื่อควบคุมมาตรฐานสารทาเลต (phthalate) ในผลิตภัณฑ์ของเล่นเด็กและของใช้พลาสติกที่ผลิตและนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย เพื่อสร้างความปลอดภัยให้ผู้บริโภค

​ศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ร่วมกับ สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล และ ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายใต้โครงการเฝ้าระวังสินค้าและบริการด้านสุขภาพ สุ่มเก็บตัวอย่างของเล่น และ ของใช้ประเภทพลาสติกพีวีซี (PVC) ที่เด็กอาจนำมาใช้เป็นของเล่น จำนวน 51 ตัวอย่าง จากร้านค้าในห้างสรรพสินค้า ท้องตลาด และบริเวณหน้าโรงเรียน ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และในเว็บไซต์ห้างออนไลน์ ในเดือนพฤษภาคม 2562 ส่งตรวจวิเคราะห์การปนเปื้อนของสารทาเลต (phthalates) 6 ชนิด ที่สกัดได้จากพลาสติก ยาง และสารเคลือบจากผิวของเล่นที่เด็กอาจสัมผัสถึง

นางสาวสารี อ๋องสมหวัง บรรณาธิการบริหาร นิตยสารฉลาดซื้อ เปิดเผยว่า “ผลทดสอบของเล่นที่สุ่มตรวจสารทาเลต ทั้งหมด 51 ตัวอย่าง พบว่า กลุ่มที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์มาตรฐานอุตสาหกรรม หรือ มอก. จำนวน 19 ตัวอย่าง พบทาเลตเกินเกณฑ์ 7 ตัวอย่าง (คิดเป็นร้อยละ 36.84 จาก 19 ตัวอย่าง) และ กลุ่มที่ไม่มีเครื่องหมาย มอก. 32 ตัวอย่าง พบทาเลตเกินเกณฑ์ 11 ตัวอย่าง (คิดเป็นร้อยละ 34.38 จาก 11 ตัวอย่าง) โดยรวมผลตรวจของเล่นที่พบทาเลตเกินมาตรฐาน คิดเป็นร้อยละ 35 (จากทั้งหมด 51 ตัวอย่าง)”

ซึ่งผลการตรวจวิเคราะห์พบว่า ของเล่นและของคล้ายของเล่น ที่เด็กอาจนำมาเล่น ทั้งหมดจำนวน 51 ตัวอย่าง พบปริมาณสารทาเลตเกินกว่าค่ามาตรฐานสากล 18 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 35 โดยชนิดของทาเลตที่ตรวจพบมากที่สุดคือ บิส-2-เอทิลเฮกซิลทาเลต หรือ bis-(2-ethylhexyl phthalate) หรือ DEHP โดยแบ่งกลุ่มของเล่นที่สุ่มตรวจออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้

Advertisement

1) กลุ่มที่มีเครื่องหมาย มอก. และ ตรวจไม่พบทาเลต หรือ พบแต่ไม่เกิน 0.1 (ไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด)

12 ตัวอย่าง ได้แก่ ยางกัดมีที่จับ (สีส้ม-เขียว) ยี่ห้อ Mind Care, ยางกัดเป็ด (สีชมพู) ยี่ห้อ Tesco loves baby, ยางกัด (สีน้ำเงิน) ยี่ห้อ Playskool baby, ตุ๊กตาพ่นน้ำ, กรุ๊งกริ๊ง (สีน้ำเงิน), ชุดตุ๊กตาไดโนเสาร์, อมยิ้มด้ามยาว, ชุดทำอาหารพลาสติก, ตุ๊กตากระต่าย (สีเหลือง), หุ่นยนต์ซุปเปอร์ฮีโร่, ชุดผลไม้ผ่าครึ่ง และ ตุ๊กตาช้าง (สีน้ำเงิน) ยี่ห้อ NB Toys

2) กลุ่มที่ไม่มีเครื่องหมาย มอก. และ ตรวจไม่พบทาเลต หรือ พบแต่ไม่เกิน 0.1 (ไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด)

Advertisement

21 ตัวอย่าง ได้แก่ ช้อน (สีแดง), พวงกุญแจม้า (สีเหลือง), ช้าง (สีส้ม), หมี (สีเทา), ไดโนเสาร์ (สีชมพู), ลูกบอลยาง (มีไฟกระพริบ), ลูกบอลยาง, ชุดตักดิน, ตุ๊กตาสัตว์เล็ก, แหวนยาง, ตุ๊กตาหนู (สีม่วง-เทา), แม่เหล็กผีเสื้อ, พวกกุญแจโมชิ (สีชมพู), ยางกัดทรงห่วงกลม, ยางกัดลายแมว, ยางกัดน้ำ fin, ที่กัดเด็ก, ยางกัดยีราฟ (สีเหลือง), ยางกัดรูปหัวใจ (สีแดง-เขียว), ตัวต่อไดโนเสาร์ และ รถตักดิน

3) กลุ่มที่มีเครื่องหมาย มอก. และ ตรวจพบทาเลตเกิน 0.1 (เกินเกณฑ์ที่กำหนด) 7 ตัวอย่าง ได้แก่ พะยูนสีเขียว (35.73), แมวน้ำสีชมพู (34.51), ยางบีบ ผลไม้ (33.17), ตุ๊กตาเป็ดสีเหลือง ยี่ห้อ Baby gift set (30.34), ตุ๊กตาหมี (สีน้ำเงิน) ยี่ห้อ NB Toys (27.529), ตุ๊กตาไก่สีเหลือง (22.593) และ ชุดบล็อกต่อ (12.94)

4) กลุ่มที่ไม่มีเครื่องหมาย มอก. และ ตรวจพบทาเลตเกิน 0.1 (เกินเกณฑ์ที่กำหนด) 11 ตัวอย่าง ได้แก่ ยางบีบหมู (37.863), พวงกุญแจสไปเดอร์แมน (36.688), แรคคูณสีเหลือง (36.422), สายรัดข้อมือสีชมพู (33.84), ตุ๊กตาบีบสัตว์ (33.18), เป็ดสีเหลือง (28.436), ตุ๊กตาเจ้าหญิง (18.83), พวงกุญแจจระเข้ (17.56), ตุ๊กตาเจ้าหญิง (9.485), พวงกุญแจยางไดโนเสาร์ (5.43) และ ตุ๊กตาม้า (2.92)

โดยเฉพาะของเล่นประเภทตุ๊กตาบีบได้รูปสัตว์ชนิดต่างๆ พบว่ามีค่าทาเลตสูงมาก เช่น ยางบีบหมู ซึ่งตรวจพบปริมาณทาเลตรวม เท่ากับ 37.86 (หน่วยเป็นร้อยละเศษส่วนโดยมวล) แรคคูณสีเหลือง ตรวจพบปริมาณทาเลตรวม เท่ากับ 36.42 และ พะยูนสีเขียว ตรวจพบปริมาณทาเลตรวม เท่ากับ 35.74

ซึ่งมาตรฐานของเล่นสหภาพยุโรป มีเกณฑ์กำหนดสูงสุดของปริมาณรวมของอนุพันธ์ทาเลตในของเล่นทั่วไป และของเล่นสำหรับเด็กอายุ 3 ขวบ และมีส่วนที่นำเข้าปากได้ ไว้ไม่เกิน 0.1% โดยมวล

รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวนการศูนย์วิจัยเพื่อความปลอดภัยในเด็ก คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า “ทาเลต เป็นกลุ่มของสารที่ส่วนใหญ่ใช้เป็นสารที่ผสมในพลาสติกชนิดพีวีซีเพื่อเพิ่มภาวะการคืนรูป ทาเลตไม่มีพันธะทางเคมีที่เชื่อมต่อกับพลาสติก ดังนั้นสารนี้จึงสามารถเคลื่อนย้ายออกจากผลิตภัณฑ์ไปเกาะติดกับสิ่งอื่นเช่นมือเมื่อมีการสัมผัสได้ ทาเลตมีหลายชนิด บางชนิดจัดว่าเป็นพิษต่อระบบการสืบพันธุ์และระบบต่อมไร้ท่อของร่างกาย โดยกลไกการออกฤทธิ์จะต้านแอนโดรเจนหรือฮอร์โมนเพศชาย

ดังนั้นในมาตรฐานสากลและในหลายประเทศได้มีการควบคุมสารทาเลต ส่วนประเทศไทย สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรมได้ติดตามเรื่องนี้มานาน ได้จัดทำร่างแก้ไขมาตรฐานของเล่น มอก. 685/2540 ซึ่งมีอายุอานามเก่ากว่า 22 ปี ในฉบับร่างได้บรรจุเรื่องการควบคุมการใช้สารทาเลตไว้ 6 ชนิด โดยไม่ให้เกิน 0.1%โดยมวล พร้อมกับการเตรียมห้องทดสอบไว้พร้อมทำการตรวจเมื่อมีการประกาศใช้มาตรฐานนี้ ฉบับร่างนี้มีกระบวนการจัดทำมาอย่างละเอียดและใช้เวลานานหลายปี คาดว่าในปลายปีนี้จะประกาศใช้ ในฉบับร่างแก้ไขยังมีการเพิ่มเติมมาตรฐานความปลอดภัยของเล่นเรื่องอื่นๆ อีกหลายเรื่อง ดังนั้นไม่ควรให้มีปัญหาใดที่จะทำให้การประกาศใช้ล่าช้าไปนานกว่านี้ เพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ ทุกคน”

“นอกจากนั้น หลังการประกาศใช้ ควรหาข้อตกลงใหม่ในการพัฒนาระบบการตรวจสอบของเล่นหลังการวางตลาดให้เข้มข้นขึ้น ปัจจุบันเน้นการตรวจก่อนการวางตลาดว่าเป็นไปตามข้อกำหนดหรือไม่ เป็นหน้าที่ของสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม ซึ่งมีภารกิจกำหนดมาตรฐาน เพื่อส่งเสริมคุณภาพผลิตภัณฑ์ อันจะส่งผลต่อเนื่องสู่การค้าขาย การส่งออก ทำให้การตรวจหลังการวางตลาดแล้วมีน้อยมาก หน่วยงานอื่นไม่สามารถเข้ามาตรวจได้ เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หรือแม้แต่องค์กรท้องถิ่นเอง ก็ไม่สามารถส่งของเล่นที่วางขายในตลาดตัวเองเพื่อทำการตรวจสอบในห้องแลปได้” รศ.นพ.อดิศักดิ์กล่าว

นางสาวสารี อ๋องสมหวัง บรรณาธิการบริหาร นิตยสารฉลาดซื้อ
นางสาวสารี อ๋องสมหวัง บรรณาธิการบริหาร นิตยสารฉลาดซื้อ
รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวนการศูนย์วิจัยเพื่อความปลอดภัยในเด็ก คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวนการศูนย์วิจัยเพื่อความปลอดภัยในเด็ก คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image