รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผยสถานการณ์เลิกจ้างยังไม่น่าห่วง สอดคล้องกับข้อมูลภาคอุตสาหกรรม ยันตั้งแต่ 1 ม.ค. – 12 พ.ย.62 มีโรงงานปิด 1,391 โรงงาน เปิดกิจการใหม่ 2,889 โรงงาน สูงขึ้นกว่าปิดกิจการถึง 2 เท่าตัว เลิกจ้างงาน 35,533 คน จ้างงานในกิจการใหม่ 84,033 คน จ้างงานจากการขยายกิจการ 84,704 คน สะท้อนว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังเติบโต กำลังการผลิตอยู่ในภาวะปกติ เชื่อมั่นภายใน 1-2 ปี ผลจากการที่รัฐบาลพัฒนาประเทศด้วยโครงสร้างพื้นฐานจะทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้น
เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวเรื่องสถานการณ์เลิกจ้างและการปิดกิจการโรงงานในปัจจุบันว่า ภาพรวมในปี 2562 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – วันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 ยืนยันว่าจากข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรม มีโรงงานปิดกิจการ 1,391 โรงงาน ขณะเดียวกันมีโรงงานเปิดกิจการใหม่ 2,889 โรงงาน โดยมีโรงงานเปิดใหม่สูงขึ้นกว่าปิดกิจการถึง 2 เท่าตัว นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการเลิกจ้างงาน 35,533 คน ขณะที่มีการจ้างงานในกิจการใหม่ 84,033 คน และจ้างงานจากการขยายกิจการ 84,704 คน โดยมีเงินลงทุนเพิ่มเติม 431,216 ล้านบาท สูงกว่าปีที่แล้วถึงร้อยละ 36.6 ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยกำลังเจริญเติบโต
ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวต่อไปว่า กระทรวงแรงงานมีตำแหน่งงานว่างกว่า 79,000 อัตรา ซึ่งสถานประกอบการยังมีความต้องการแรงงานอยู่เป็นจำนวนมาก กระทรวงแรงงานได้ฝึกทักษะแรงงานใหม่ให้สามารถมีทักษะที่จะทำงานได้ ส่วนเรื่องอัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือนกันยายน 2562 อยู่ที่ร้อยละ 64.73 ซึ่งต่ำสุดนับแต่เดือนธันวาคม 2554 หรือในรอบ 94 เดือนนั้น อัตรากำลังการผลิตอยู่ที่ระดับร้อยละ 65 ยังถือว่าอยู่ในภาวะปกติ และเป็นอัตราที่กำลังพอดีพอเหมาะแล้ว ส่วนสถานการณ์ในอนาคต ยังต้องรอดูการเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งขณะนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น
“ขณะนี้รัฐบาลมีแนวทางในการพัฒนาประเทศโดยเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะระบบขนส่ง ซึ่งไม่ใช่การสร้างอุตสาหกรรม และในตอนนี้โครงการดังกล่าวได้เริ่มไปแล้ว ภายใน 1-2 ปี เงินจะเริ่มออกมาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเป็น 1.7 เท่า ส่วนโครงการอื่นๆ ที่กระตุ้นการใช้จ่ายก็มีความจำเป็นในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้” ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าว
