กรณีที่มีการรายงานข่าวว่า นักศึกษาสาวที่อ้างว่าถูกนักแสดงชายคนหนึ่งมอมยาด้วยการให้กินขนมเยลลีที่มีส่วนผสมของสารทีเอชซี (THC) ซึ่งเป็นสารสกัดที่ได้จากพืชกัญชา จนทำให้เกิดอาการมึนงง ใจเต้นแรงและเวียนหัว จนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลนั้น
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการ สธ. กล่าวว่า ขณะนี้กัญชาในประเทศไทยจะต้องใช้เพื่อทางการแพทย์เท่านั้น ไม่มีการอนุญาตให้ใช้ทั่วไป ผู้ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศก็ผิดกฎหมายเช่นกัน เนื่องจากการรักษาจะต้องผ่านกระบวนของการแพทย์ ดังนั้นในส่วนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องเป็นการใช้ที่ผิดกฎหมายทั้งหมด
“การใช้กัญชาทางการแพทย์ หากมีการให้ใช้อิสระในการนำเข้ายาที่สกัดมาจากกัญชามาจากต่างประเทศนั้น จะทำให้เกิดปัญหาทั้งด้านคุณภาพและราคา ดังนั้นเพื่อเป็นการตัดวงจรเหล่านี้ สธ.จึงจะเข้ามาดำเนินการเอง เป็นผู้ศึกษาด้วยตัวเองในการใช้สารสกัดจากกัญชา” นายสาธิต กล่าว
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สธ. กล่าวว่า กัญชาที่ใช้รับประทานเข้าสู่ร่างกายด้วยการผสมใส่ในอาหารนั้น จะมีฤทธิ์น้อยกว่าการหยดใต้ลิ้นหรือการเผาด้วยไฟ เนื่องจากสารสกัดจะถูกทำลายจากระบบย่อยอาหาร และโดยทั่วไปสารสกัดทีเอชซีจะไม่นำมาใส่ในอาหาร แต่ถ้าเป็นสารซีบีดี (CBD) สามารถรับประทานได้แต่ต้องอยู่ในปริมาณที่กำหนด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อร่างกาย
“การได้รับสารทีเอชซีจะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เคลิบเคลิ้ม หรือสนุกสนาน ขณะนี้ประเทศไทยยังไม่มีการอนุญาตให้ใช้สารสกัดจากกัญชาได้ในกรณีทั่วไป ดังนั้นจะต้องเร่งตรวจสอบว่า ขนมเยลลีที่ถูกอ้างว่ามีส่วนผสมจากสารทีเอชซีนั้น เป็นการลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศหรือไม่ เนื่องจากเข้าข่ายสารเสพติด และหากพบว่ากระทำความผิดจริง จะต้องมีการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป” นพ.โอภาส กล่าว
