เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 25 พฤศจิกายน ตามเวลาท้องถิ่นสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ที่อาคารจัดแสดงนิทรรศการ BEXCO นครปูซาน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุมดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “ASEAN-ROK Startup Expo 2019”
นายสุวิทย์ กล่าวตอนหนึ่งในพิธีเปิดงานว่า ไทยและเกาหลีใต้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อเนื่องมาอย่างยาวนานกว่า 61 ปี มีนักท่องเที่ยวเกาหลีมาท่องเที่ยวในไทยจำนวนมาก และเกาหลีเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทย และทั่วโลกต่างตระหนักว่า เกาหลีมีความก้าวหน้าและเชี่ยวชาญในเรื่องอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมสร้างสรรค์หรือความบันเทิง หรือเคป๊อป (K-pop) ที่โด่งดังอย่างมากทั้งในไทยและระดับสากล ซึ่งตรงกับแผนของประเทศไทยที่กำลังส่งเสริมสตาร์ทอัพ (Start up) ทางด้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Economy) ให้เกิดขึ้น
นายสุวิทย์ กล่าวว่า อว.ต้องการเชิญเกาหลีใต้เข้าร่วมเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซีไอ) เรื่องจากเกาหลีมีความเชี่ยวชาญในเรื่อง artificial intelligence (AI) เป็นอย่างมาก โดยทางการไทยอาจมอบสิทธิพิเศษให้แก่นักลงทุนเกาหลีที่มีความสนใจลงทุนในไทย เนื่องจากที่ผ่านมานักลงทุนในเกาหลีมาลงทุนในเมืองไทยน้อย เมื่อเทียบกับประเทศเวียดนามที่มีนักลงทุนเกาหลีไปร่วมลงทุนกว่า 8,000 ราย ในขณะที่มาลงทุนในประเทศไทยไม่ถึง 1,000 ราย
วันเดียวกัน ผู้แทน 3 องค์กรของประเทศไทย ได้แก่ 1.บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) 2.สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) 3.ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี (ศจ.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) ร่วมกับ บรรษัทเทคโนโลยีการเงินประเทศเกาหลี Korea Techhnology Finance Corporation (KOTEC) โดยนายสุวิทย์ และ นางปัก ยองซอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวง SME and Start-Up (Ministry of SME and Startup-MSS) ร่วมเป็นสักขีพยาน
ทั้งนี้ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้ผู้ประกอบการไทยได้รับ 1.ผลการประเมินศักยภาพทางธุรกิจ รวมทั้งจุดแข็งและโอกาสจากการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญหลากสาขา ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาปรับปรุงเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางเทคโนโลยีและการดำเนินธุรกิจ 2.เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ทั้งในส่วนของสินเชื่อจากสถาบันการเงิน โดยสามารถใช้ควบคู่กับโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Start-Up&Innobiz ของ สบย. และการร่วมลงทุนในรูปแบบต่างๆ 3.เพิ่มโอกาสเข้าถึงกลไลสนับสนุนธุรกิจเทคโนโลยีจากทางภาครัฐและเอกชน
