‘อนุทิน’ รับผิดหวัง ลั่น ‘สุดซอยแล้ว’ แต่ยังอวยพรให้ทุกคนโชคดีกับมติ กก.วัตถุอันตราย

หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายวันที่ 27 พฤศจิกายน ที่มี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน มีมติพิจารณาข้อเสนอของปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) ให้ออกประกาศกำหนดวัตถุอันตราย พาราควอต และ คลอร์ไพริฟอส เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยให้กำหนดระยะเวลาใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 และสารวัตถุอันตราย ไกลโฟเซต ให้ใช้มาตรการจำกัดการใช้ตามมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2561 นั้น

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. กล่าวว่า วันนี้ได้รับรายงานจากกรรมการวัตถุอันตราย ซึ่งเป็นตัวแทนของ สธ. 2 คน คือ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ว่าทั้งสองคนได้มีความเห็นแย้ง คือยืนยันตามมติเดิม จึงคิดว่าในการโหวตครั้งนี้เป็นมติเสียงข้างมาก ไม่ใช่มติโดยเอกฉันท์ เนื่องจากไม่ใช่การประชุมลับ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของการวิพากษ์วิจารณ์ว่าผลออกมาเช่นนี้จะมีผลต่อการพิจารณ์พรรคร่วมรัฐบาล นายอนุทินกล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน ไม่ใช่เรื่องการเมืองและเป็นเรื่องมติของที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายแต่ละคนที่มีอิสระ เพียงแต่ว่า สธ.ยังคงยืนยันว่าอะไรก็ตามที่มีผลต่อสุขภาพของประชาชนนั้น สธ.จะเห็นชอบด้วยไม่ได้ และ สธ.ก็ยืนยันท่าทีในที่ประชุมว่าจะต้องมีการแบน แต่จะต้องให้เกียรติคณะกรรมการชุดนี้ เนื่องจากมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธาน ดังนั้นจะต้องฟังที่ท่านแถลง จากนี้ไปก็คงเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการเป็นผู้บริหารจัดการเรื่องนี้ต่อไป

“สธ.ก็สุดซอยแล้ว ท่านมนัญญา ไทยเศรษฐ์ ก็สุดซอยแล้ว ทำในสิ่งที่เราทำเพื่อปกป้องสุขภาพ รักษาชีวิตของประชาชนแล้ว แต่ทั้งหมดก็มีกระบวนการ การลงมติกัน ถ้าหากลงมติแล้วฝ่ายเราที่ปกป้องประชาชนเป็นเสียงข้างน้อย แล้วจะให้ทำยังไง เราก็ต้องทำตามกฎหมาย ที่มีมติออกโดยคณะกรรมการ ถ้าออกโดยรัฐมนตรีค่อยเป็นประเด็นทางการเมือง” นายอนุทินกล่าว

Advertisement

เมื่อถามต่อว่า ผิดหวังกับมติในที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายครั้งนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ผิดหวัง

“แต่หากให้มีกฎหมายว่า รัฐมนตรีว่าการ สธ.สามารถหักล้างมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายได้ แล้วสามารถสั่งการได้เองโดยไม่ต้องฟังใครได้ เดี๋ยวจะเซ็นให้เองเลยเดี๋ยวนี้ แต่มันทำไม่ได้ ก็ผิดหวัง เสียใจ กลับบ้านร้องไห้ เรื่องนี้ไม่ใช่นโยบายของรัฐบาล เนื่องจากมีคณะกรรมการที่ประกอบไปด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ ไม่ใช่ตัวแทนจากราชการอย่างเดียว และส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับสุขภาพเลย เช่น ตำรวจ ทหาร คมนาคม ถ้าเขาออกมติมาแบบไหน เราก็ต้องยอมรับ หากเราไม่ยอมรับ เท่ากับเราไม่เคารพกฎหมาย อีกหน่อยเราออกอะไรบ้างเขาไม่ยอมรับ มันก็ไม่จบ อันนี้ก็ต้องยอมรับไป เราแสดงเจตนารมณ์ของเราแบบนี้ ในเมื่อเห็นเป็นอย่างอื่น เราก็ต้องกลับมาทำหน้าที่เดิม ก็ขอให้ทุกคนโชคดี หากมีปัญหา สธ.ก็พร้อมจะรักษาให้หายต่อไป” นายอนุทินกล่าว

เมื่อถามว่า แต่ละพรรคการเมืองที่มีความคิดเห็นเรื่องนี้ต่างกันนั้นมีผลอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า แต่ละคนมีภารกิจต่างกัน อุตสาหกรรมก็มีมุมมองทางภาคอุตสาหกรรม เกษตรก็มีมุมมองทางภาคการเกษตร สาธารณสุขก็มีมุมมองทางด้านสาธารณสุข หากยกตัวอย่างว่า ไม่มีคณะกรรมการชุดนี้ก็แพ้อยู่ดี เนื่องจาก 2 ต่อ 1 แต่จะไม่ใช่การแพ้แบบนักเลง เราจะต้องยอมรับว่า 3 คนต้องมาให้ความเห็นร่วมกัน

Advertisement

“เราไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง หากทำได้ก็จะทำแต่หากทำไม่ได้ก็จะต้องยอมรับ และต้องพยายามมีส่วนร่วมในการทำให้เกิดการเสียหายน้อยที่สุดกับประชาชนและเกษตรกรที่จะต้องใช้สารเคมีเหล่านี้ต่อไป ก็ต้องให้ทุกคนมั่นระวังมากขึ้น หลีกเลี่ยงการสัมผัสมากขึ้น ใช้อย่างตามคำแนะนำมากขึ้น และก็ให้โชคดี อโรคยา ปรมาลาภา เอวัง ก็มีด้วยประการฉะนี้” นายอนุทิน กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image