ไทย-เกาหลีใต้ดัน ‘สตาร์ตอัพ’ มุ่งสู่ ‘ยูนิคอร์น’ โลก

ปัจจุบันวิทยาการและเทคโนโลยีเติบโตอย่างรวดเร็ว การดำเนินธุรกิจต่างๆ ก็ต้องมีการปรับตัวเพื่อสอดรับกับโลกที่กำลังเดินไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับที่ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้เห็นถึงความสำคัญของธุรกิจในอนาคตที่จะต้องอาศัยการขยายตัวอย่างก้าวกระโดด หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า วิสาหกิจเริ่มต้น หรือสตาร์ตอัพ (Startup)Ž

นายสุวิทย์บอกว่า หัวใจของการสร้างสตาร์ตอัพคือ การสร้างระบบนิเวศทั้งระบบเพื่อสตาร์ตอัพ แปลงคุณค่าทางความคิดให้เป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง และแข่งขันกับประเทศอื่นได้

ล่าสุด สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ องค์การมหาชน (สนช.) หน่วยงานภายใต้การดำเนินงานตามนโยบายของ อว. จึงเป็นแกนหลักในการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวไปสู่การสร้างเครือข่ายพันธมิตรด้านการสนับสนุนธุรกิจสตาร์ตอัพ ร่วมกับสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ภายใต้งาน ASEAN-ROK Startup Expo 2019 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ อาคารจัดแสดงนิทรรศการเบคโก้ นครปูซาน เกาหลีใต้

Advertisement

เวทีดังกล่าวเพื่อสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐของเกาหลีใต้ และการให้ความร่วมมือกันระหว่างประเทศเพื่อผลักดัน ภูมิภาคอาเซียนŽ เป็นศูนย์กลางการลงทุนจากทั่วโลก

นายสุวิทย์ กล่าวว่า การจัดงานสตาร์ตอัพไทยแลนด์ (Startup Thailand) ทุกปี ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับในเวทีโลก และเป็นแพลตฟอร์มสำคัญในการเร่งการเติบโตของวิสาหกิจเริ่มต้น ดังจะเห็นได้ว่ามีการเติบโตของสตาร์ตอัพในช่วงเวลา 4 ปี เพิ่มขึ้นจากไม่กี่สิบราย มาจนถึง 2,200 ราย บริษัทขนาดใหญ่ร่วมลงทุนกับสตาร์ตอัพ โดยมีการจัดตั้งกองทุนความเสี่ยงมูลค่ากว่า 35,000 ล้านบาท มีการสร้างเครือข่ายพันธมิตรระดับนานาชาติกว่า 25 ประเทศ เพื่อเป็นการกระตุ้นความสนใจและดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ

Advertisement

“ผมขอให้เราช่วยกันมองไปในอนาคต และสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อสร้างโอกาสจากเทคโนโลยีต่างๆ และนวัตกรรมในการสร้างสรรค์ความก้าวหน้าให้กับภูมิภาค โดยเฉพาะเพื่อเป็นประโยชน์กับประชาชน ประชากรโลกมากที่สุด ดังนั้น งาน ASEAN-ROK Startup Expo 2019 จึงเป็นก้าวสำคัญในการต่อยอดธุรกิจสตาร์ตอัพให้เติบโต”Ž นายสุวิทย์ กล่าว

ด้าน นางปัก ยอง ซอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวง SME and Start Up เกาหลีใต้ กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้เป็นการกำหนดทิศทางที่จะเดินไปใน 30 ปีข้างหน้า ระหว่างเกาหลีใต้กับอาเซียน ซึ่งมีความสัมพันธ์กันยาวนานมากกว่า 30 ปี ทั้งนี้ เพื่อขับเคลื่อนส่งเสริมเอสเอ็มอีและสตาร์ตอัพให้เป็นรูปธรรม และเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับกลุ่มดังกล่าว

“เกาหลีใต้ได้จัดตั้งกระทรวง SME and Start Up ขึ้นเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เพราะมองว่าปีนี้โลกเคลื่อนด้วยนวัตกรรม 4.0 ซึ่งอาเซียนมีส่วนสำคัญที่จะช่วยกันสร้างระบบนิเวศทางเศรษฐกิจที่สมบูรณ์ เพื่อเป้าหมายร่วมกันในการสร้างเสริมให้เกิดยูนิคอร์นระดับโลกขึ้นมา ต้องร่วมมือกันสร้าง และเชื่อมโยงนวัตกรรมต่างๆ เข้าด้วยกัน เพราะลำพังประเทศใดประเทศหนึ่งย่อมไม่สามารถสร้างยูนิคอร์นขึ้นมาได้เองŽ” นางปัก ยอง ซอน กล่าว

การเยือนเกาหลีใต้ครั้งนี้ ประเทศไทยและเกาหลีใต้ได้มีความร่วมมือระหว่างภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับสตาร์ตอัพรวม 3 ฉบับคือ 1.บันทึกข้อตกลงความเข้าใจระหว่าง 3 หน่วยงาน คือ Lotte Accelerator Corporation, ASEAN Business Center, Republic of Korea, บริษัท อริสโท โปรดักชั่น จำกัด ร่วมกับ สนช. 2.บันทึกข้อตกลงความเข้าใจ เรื่องการสร้างการรับรู้เรื่องสตาร์ตอัพระหว่างประเทศไทยและเกาหลีใต้ ระหว่าง 2 หน่วยงาน คือ Korea of SMEs and Startups Agency (KOSME) ร่วมกับ สนช. 3.บันทึกข้อตกลงความเข้าใจ การร่วมมือและการเป็นพันธมิตรเรื่องการพัฒนาธุรกิจสตาร์ตอัพระหว่าง 2 หน่วยงานคือ Center for Creative Economy and Innovation (CCEI Daegu) ร่วมกับ สนช.

และล่าสุดภายในงาน ASEAN-ROK Startup Expo 2019 นั้น ได้มีการลงนามความเข้าใจระหว่าง อว.กับกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (Ministry of Science and ICT: MSIT) ของเกาหลีใต้

นับเป็นการกระชับความสัมพันธ์และเกิดความร่วมมือที่เข้มแข็งระหว่างไทยและเกาหลีใต้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image