WWF ชี้ งานวิจัย ระบุ นักท่องเที่ยวมาไทย ยังต้องการงาช้างเป็นที่ระลึกเพิ่มจาก 18 เป็น 27%

WWF ชี้ งานวิจัย ระบุ นักท่องเที่ยวมาไทย ยังต้องการงาช้างเป็นของที่ระลึกเพิ่มจาก 18 เป็น 27%

วันที่ 12 ธันวาคม นายเจษฏา ทวีกาญจน์ ผู้จัดการโครงกาต่อต้านการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล สำนักงานประเทศไทย (WWF Thailand) กล่าวในการแถลงข่าวโครงการ เที่ยวไทยไร้การซื้อขายงาช้างปี 2562 ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ระบุว่าในปีนี้ WWF ประเทศไทยยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อลดทอนปัญหาการซื้อ และขายผลิตภัณฑ์จากงาช้าง ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์วันชาติของประเทศจีน หรือ Golden Week ในเดือนตุลาคม ตลอดเรื่อยมาจนถึงเดือนธันวาคม โดยในปีนี้ WWF ต้องการเน้นย้ำให้กลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยว มีความเข้าใจในข้อบังคับทางกฎหมาย เพื่อให้เกิดการตระหนักรู้และเกิดผลในการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

“การค้างาช้างผิดกฎหมายถือเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ เช่นเดียวกับการค้ายาเสพติด ประเทศไทยถือเป็นประเทศหนึ่งที่ยังมีตลาดการค้างาช้างถูกกฎหมาย และล่าสุดรายงานจากบริษัท Globe Scan ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยระดับโลก ยังคงพบว่ามีความต้องการซื้องาช้างในประเทศไทยจากกลุ่มนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้าใจว่า สามารถนำงาช้างออกนอกประเทศไทยได้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว นักท่องเที่ยวไม่สามารถทำได้ ในปีนี้ Globe Scan ระบุว่า ไทยเป็นประเทศเป้าหมายที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาและซื้อผลิตภัณฑ์จากงาช้างเป็นของฝากของที่ระลึก ตัวเลขเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้านี้ที่ 18% มาอยู่ที่ 27% ถือว่าการเพิ่มขึ้นนี้มีนัยยะสำคัญ ทุกปี ช้างป่าแอฟริกันยังคงถูกล่าเพื่อฆ่าเอางามาแปรรูปและขายในตลาดโลก และในปี 2562 นี้มีการออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อย้ำให้เห็นถึงการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องรับทราบและระมัดระวัง”นายเจษฎา กล่าว

Advertisement

นายนุวรรต ลีลาพตะ ผู้อำนวยการส่วนด่านตรวจสัตว์ป่า กองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ที่เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 โดยมีความเข้มข้นในเรื่องของข้อบังคับใช้ทางกฎหมายทั้งโทษจำคุก และโทษปรับ ทั้งนี้ ประเทศไทยได้มีความพยายามในการแก้ไขปัญหาการซื้อขายผลิตภัณฑ์จากงาช้างในกลุ่มนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยมีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ผ่านด่านตรวจสัตว์ป่า ทั้งทางอากาศยาน และภาคพื้นดิน โดยในปี พ.ศ. 2562 นี้เป็นต้นไป กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะได้นำชิ้นงานประชาสัมพันธ์จาก WWF ประเทศไทย มาใช้เผยแพร่ในพื้นที่ต่างๆ อาทิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นต้น

Advertisement

น.ส.ดวงกมล วงศ์วรจรรย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและการสื่อสารงานอนุรักษ์ WWF ประเทศไทยกล่าวว่า การจัดกิจกรรมรณรงค์เที่ยวไทยไร้การซื้อขายงาช้างปี 2562 ได้มีการจัดทำการวิจัยเชิงปริมาณในกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักท่องเที่ยว ใน 5 พื้นที่หลักรอบกรุงเทพมหานคร ได้แก่ เยาวราช ประตูน้ำ มาบุญครอง เอเชียทีค และหน้าบิ๊กซีราชดำริ พบว่า จากกลุ่มสำรวจนักท่องเที่ยวจีน จำนวน 214 คน มีนักท่องเที่ยวกว่า 81% ไม่คิดที่จะซื้องาช้างเป็นของฝากจากประเทศไทย ในขณะที่อีก 48% เข้าใจว่า ผลิตภัณฑ์จากงาช้างเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ในขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวอีกกว่า 51% ยังคงเข้าใจว่าหากต้องการซื้อผลิตภัณฑ์จากงาช้าง ประเทศไทยคือแหล่งซื้อเป้าหมายที่สามารถหาซื้อได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image