ข่าวร้ายคนกรุง จากนี้ถึงสิ้นปี ไร้วี่แววลมหนาว ต้องรอลุ้นมกราคมปีหน้า แถมเจอภาวะ ‘สม็อก’ ฝุ่น-หมอก

ข่าวร้ายคนกรุง จากนี้ถึงสิ้นปี ไร้วี่แววลมหนาว ต้องรอลุ้นมกราคมปีหน้า แถมยังเจอภาวะ สม็อก ฝุ่น หมอก ตอนเช้า ด้าน คพ.เผยฝุ่นพิษอยู่ยาวถึง ก.พ.63 พร้อมนำร่องข้าราชการงดใช้รถยนต์ส่วนบุคคลมาทำงาน

เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยถึงสำหรับสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล คุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพดีถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ สารมลพิษทางอากาศที่ตรวจพบเกินมาตรฐานได้แก่ ฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตรวจพบค่าระหว่าง 29 – 60 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก/ลบ.ม.) เกินมาตรฐาน 10สถานี ที่บริเวณ ริมถนนตรีมิตร วงเวียนโอเดียน์ เขตสัมพันธวงศ์,ริมถนนพระรามที่ 4 หน้าสามย่านมิตรทาวน์ เขตปทุมวัน,ริมถนนพระราม 3-เจริญกรุง เขตบางคอแหลม,ริมถนนเจริญนคร เขตคลองสาน,ริมถนนเพชรเกษม เขตภาษีเจริญ,แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ,แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่,ริมถนนพหลโยธิน เขตบางเขน กรุงเทพฯ, ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน สมุทรสาคร, และ ต.มหาชัย อ.เมือง สมุทรสาคร

นายประลอง กล่าวย้ำว่า คาดว่าค่าฝุ่น PM2.5 จะเกินค่ามาตรฐานในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 ไปถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่เป็นเด็ก คนชราและผู้ที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพอนามัย ในปีที่ผ่านมา มีจำนวนวันที่ฝุ่นละอองเกินมาตรฐานในจังหวัดสมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี และนครปฐมช่วงสถานการณ์ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2561 – เมษายน 2562 มีจำนวน 59 วัน 49 วัน 44 วัน 24 วัน 21 วัน และ 33 วัน ตามลำดับซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากยานพาหนะ

นายประลอง กล่าวว่า ประเทศไทย ได้วางแผนพัฒนามาตรฐานการระบายมลพิษจากรถยนต์ใหม่ให้เทียบเท่ามาตรฐานยูโร 5 และยูโร 6 ภายในปี 2564 และ 2565 สำหรับการพัฒนามาตรฐานการระบายมลพิษจากรถจักรยานยนต์ให้เทียบเท่ายูโร 4 ภายในปี 2563 และปรับปรุงให้เทียบเท่ามาตรฐานยูโร 5 ภายในปี 2568 และปรับปรุงมาตรฐานคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงที่เทียบเท่ายูโร 5 ให้แล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2566 และบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป ซึ่งมีค่ามลพิษที่น้อยลง พร้อมทั้งมีระบบคมนาคมขนส่งรถไฟฟ้าครอบคลุมเมืองหลัก จะทำให้ฝุ่นละอองและมลพิษทางอากาศลดน้อยลง แต่ในขณะที่ปัจจุบันปัจจัยเหล่านั้นยังไม่มาถึง เมื่อมีสภาพความกดอากาศต่ำ ทำให้มีปริมาณฝุ่นละอองเกิดการสะสม ปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยได้คือเราทุกคนต้องช่วยกันลดการระบายมลพิษจากรถยนต์ ลดการใช้ยานพาหนะ

“คพ.ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลกำกับในการจัดการมลพิษ เจ้าหน้าที่มีความตระหนักในเรื่องดังกล่าว และผลกระทบต่อประชาชน ด้วยสปิริตวิชาชีพ สปิริตองค์การ จะเป็นหน่วยงานผู้นำในการร่วมแก้ไขปัญหาโดยการเริ่มที่ตัวเราก่อน ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทุกคนร่วมใจ “งดใช้รถ ลด PM2.5 เพื่อลมหายใจของทุกคน” โดยงดใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางมาทำงาน ในทุกวันพุธของสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันพุธที่ 18 ธันวาคม เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์ฝุ่นละอองจะกลับสู่ภาวะปกติ” นายประลอง กล่าว

Advertisement

วันเดียวกัน แบบจำลองสภาพอากาศ(วาฟ-รอม) สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ(สสน.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม เปิดเผยข้อมูลสภาพอากาศหลังจากวันนี้ไปถึงช่วงสิ้นปี 2562 ว่า เวลานี้ความกดอากาศสูงที่ครอบคลุมประเทศไทยตอนบน และแผ่กำลังลึกเข้ามาถึงภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพและปริมณฑล ได้อ่อนกำลังไปแล้ว อุณหหภูมิหลายๆพื้นที่จึงเริ่มสูงขึ้น ไปจนถึงช่วงสิ้นปี ถึงแม้อาจจะมีความกดอากาศสูงระลอกใหม่แผ่ลงมาแต่ก็จะมีกำลังไม่แรงพอทำให้กระแสลมหนาวมีกำลังมากพอที่จะพัดปกคลุมทั่วทั้งประเทศไทยตอนบน ยังคงมีเฉพาะภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนได้รับมวลอากาศเย็น หรือลมหนาวที่แผ่ลงมาถึงอยู่บ้างในช่วงวันที่ 20-21 ธันวาคม ส่วนภาคกลางจะมีแค่ลมเย็นในช่วงเช้าเล็กน้อย โดยอุณหภูมิต่ำสุดของพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลน่าจะอยู่ที่ประมาณ 24-25 องศาเซลเซียสในช่วงเช้ามืด

“หลังจากนี้อาจจะมีหมอกในช่วงเช้า ทั้งนี้ในช่วงกระแสลมหนาวอ่อนกำลังกฌจะทำให้การพัดพาฝุ่นละอองในเขตกรุงเทพมหานครถูกพัดพาได้น้อยลง หรือมีการสะสมของฝุ่นละอองมากขึ้น โดยอาจจะเกิดเป็นภาวะที่เรียกว่า สม็อก ซึ่งเป็นการรวมตัวกันระหว่าง หมอกและฝุ่นควันนั่นเอง โดยสรุปก็คือ ตั้งแต่วันนี้ไปถึงช่วงสิ้นปี ยังไม่พบว่า จะมีมวลอากาศเย็นหรือลมหนาวที่มีกำลังแรงจะแผ่ลงมายังประเทศไทยเลย อาจจะต้องรอลุ้นอีกครั้งว่าเดือนมกราคม จะมีอากาศหนาวเข้ามาหรือไม่” วาฟ ระบุ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image