เมื่อวันที่ 3 มกราคม นายชัยวัฒน์ วรพิบูลพงศ์ ผู้เชี่ยวชาญ การประปานครหลวง (กปน.) ระดับ 10 เปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้คุณภาพน้ำประปาฝั่งพระนครมีคุณภาพเปลี่ยนแปลงไป โดยจะมีผล ยาวนานถึงเดือนพฤษภาคม 2563 เนื่องจากน้ำในเขื่อนเหลือน้อย ทำให้น้ำประปามีค่าความเค็มสูงกว่าปกติ 5-10 เท่าตัวจากเกณฑ์ปกติ หรือน้ำประปากร่อย ขอให้ทุกภาคส่วน ทั้งเกษตรกรรม อุตสาหกรรม แบ่งปันกัน และร่วมกันฝ่าฟันการใช้น้ำจนกว่าจนพ้นวิกฤตนี้ไปได้ ทั้งนี้ มีแพทย์ฝากเตือนให้ระมัดระวังและปรับตัวเรื่องการใช้น้ำ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง อาทิ ผู้ป่วยประเภทโรคไต หัวใจ สมอง ความดันโลหิตสูง
นอกจากนี้ นายชัยวัฒน์ยังเปิดเผยข้อมูลการวัดค่าความเค็มของน้ำประปา ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2563 ดังนี้ วันที่ 28 ธ.ค.62 เวลา 18.30 น. วัดค่าความเค็มได้ 1,780 มิลลิกรัม/ลิตร เวลา 20.40 น. วัดค่าความเค็มได้ 2,030 มิลลิกรัม/ลิตร (นิวไฮ) วันที่ 29 ธ.ค.62 เวลา 18.00 น. วัดค่าความเค็มได้ 1,030 มิลลิกรัม/ลิตร วันที่ 30 ธ.ค.62 เวลา 18.30 น. วัดค่าความเค็มได้ 740 มิลลิกรัม/ลิตร วันที่ 31 ธ.ค.62 เวลา 11.20 น. วัดค่าความเค็ม ได้ 280 มิลลิกรัม/ลิตร เวลา 19.40 น. วัดได้ 660 มิลลิกรัม/ลิตร วันที่ 1 ม.ค.63 เวลา 20.30 น. วัดค่าความเค็ม ได้ 720 มิลลิกรัม/ลิตร วันที่ 2 ม.ค.63 เวลา 18.20 น. วัดค่าความเค็มได้ 580 มิลลิกรัม/ลิตร และ วันที่ 3 ม.ค.63 เวลา 18.00 น. วัดค่าความเค็มได้ 700 มิลลิกรัม/ลิตร
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก เลี้ยงหมาตามหมอ ได้รณรงค์ถึงประชาชนชาวกรุงเทพฯ กรุงเทพฯฝั่งตะวันออก และนนทบุรี ถึงการให้น้ำกับสัตว์เลี้ยงว่า ช่วงนี้ควรให้สัตว์เลี้ยงบริโภคน้ำจากขวด หรือน้ำกรอง (จากเครื่องกรองน้ำแบบ RO) และควรระวังสุนัขหรือแมวแก่ หรือที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไต โรคหัวใจ
ด้าน รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ อดีตผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาค ระบุว่า เรียนทุกท่านในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล เพื่อเป็นข้อมูล ตั้งแต่วันปีใหม่ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ (3 มกราคม) คุณภาพน้ำดิบที่สถานีสำแล รวมทั้งคุณภาพน้ำดิบที่โรงกรองบางเขน เกินมาตรฐานความเค็มทุกวัน (> 0.25 กรับต่อลิตร ดูตารางประกอบ) ซึ่งจะทำให้รสชาติน้ำกร่อย เป็นอันตรายต่อผู้ป่วย หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไต โรคหัวใจ เบาหวาน ความดัน ผู้สูงอายุ และเด็กเล็ก (ตามประกาศของ กปน.) อนึ่ง โรงผลิตน้ำบางเขนเป็นโรงผลิตที่มีกำลังการผลิตมากที่สุด ประมาณ 4-5 ล้าน ลบ.เมตรต่อวัน และไม่มีระบบกรองความเค็ม ชาว กทม.ส่วนใหญ่ใช้น้ำอุปโภค และบริโภคจากโรงผลิตนี้ ดังนั้น จึงควรใช้ความระมัดระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
