เมื่อวันที่ 6 มกราคม ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงสถานการณ์ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกากับอิหร่านและอิรัก กรณีการสังหารนายกอซิม สุไลมานี นายพลเชื้อสายอิหร่านในอิรัก ว่า กระทรวงแรงงานมีความห่วงใยแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในประเทศอิรักและอิหร่าน โดยได้สั่งการให้อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) สำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดิอาระเบีย (กรุงริยาด) ซึ่งเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบดูแลแรงงานไทยในประเทศอิรัก และอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบดูแลแรงงานไทยในประเทศอิหร่าน เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ สร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์แจ้งข่าวสารให้แรงงานไทยทั้งสองประเทศรับทราบเป็นระยะ
ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวว่า กระทรวงแรงงานยังได้สั่งการให้อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายแรงงานฯ ทั้ง 2 ประเทศ ประสานการดำเนินงานอย่างใกล้ชิดกับสถานกงสุล และเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศนั้นๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกแรงงานไทยและคนไทย ในการอพยพหากสถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน (กกจ.) ยังมีเงินกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ เพื่อให้การช่วยเหลือแรงงานไทยที่ได้รับความเดือดร้อนในการไปทำงานในต่างประเทศตามขั้นตอนของกฎหมายอีกด้วย
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในประเทศอิหร่าน จำนวน 257 คน และเดินทางไปทำงานในประเทศอิรักประมาณ 25 คน ส่วนใหญ่ไปทำงานในตำแหน่งช่างเทคนิค กุ๊ก บริการนวด พนักงานบริการ ช่างเชื่อม งานประมง ผู้ปฏิบัติงานในโรงงาน เป็นต้น