สธ.เผย 4รายเฝ้าระวังปอดอักเสบจากจีน ‘อนุทิน’ ยันไทยยังไม่มีติดเชื้อ แต่วางระบบป้องกันไว้ก่อน

กรณีพบการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสที่เมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศไทยได้ดำเนินการป้องกัน สกัดกั้นการแพร่ของโรค โดยตั้งด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศที่สนามบินต่างๆ ของประเทศไทย อาทิ สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต เป็นต้น

เมื่อวันที่ 6 มกราคม ที่ อาคารเฉลิมพระเกียรติ สถาบันบำราศนราดูร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยได้มีการตั้งรับพร้อมรักษาผู้ป่วยจากกรณีดังกล่าวแล้ว อย่างที่ได้ดำเนินการไปในการเตรียมความพร้อมด่านคัดกรองผู้ป่วยในสนามบิน วันนี้ได้ดูสถานที่ที่ไว้สำหรับรักษาผู้ป่วยมีความพร้อม จึงอยากให้ประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยวมั่นใจว่าประเทศไทยสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และไม่เกิดการแพร่ระบาดของโรคในประเทศ เนื่องจากมีระบบคัดกรองและทำการรักษาได้เต็มที่ 100% กรมควบคุมโรคมีการจัดทำห้องแยกผู้ป่วยด้วยระบบห้องพิเศษแยกโรคติดเชื้อความดันลบ ที่มีการตั้งความดันอากาศภายนอกมากกว่าภายในห้อง ดังนั้นเชื้อโรคที่อยู่ในห้องจะไม่สามารถออกมาด้านนอกห้องได้

“สิ่งที่กังวลในขณะนี้คือ การรับรู้ข่าวสารที่ผิดจากข้อเท็จจริงของประชาชน เพราะส่งผลให้เกิดความตื่นตระหนก ซึ่งไม่ดีต่อประเทศไทยในการท่องเที่ยว สธ.ยืนยัน ประเทศไทยปลอดภัยทุกประการ ผู้ติดไข้ไม่ว่าจะเชื้อสายพันธุ์ใดก็ตาม สธ.ยืนยันว่ารักษาได้ ไม่มีการแพร่ของเชื้อในวงกว้างหรือทำอันตรายให้กับบุคคลทั่วไป ไม่มีอะไรน่ากังวลเกินความสามารถของแพทย์ สาธารณสุข ทุกหน่วยงาน หากมีอันตรายเราก็มีมาตรการรองรับความรุนแรงต่อไป” นายอนุทิน กล่าวและว่า นอกจากนี้ ยังได้แจ้งไปยังโรงพยาบาลเอกชนทั่วประเทศว่า หากพบผู้ป่วยอาการติดเชื้อหวัดมารับการรักษา ให้แจ้งที่ สธ. เพื่อส่งรถพยาบาลไปรับในกรณีเสี่ยง เช่น การเดินทางกลับจากเมืองอู่ฮั่น แล้วมีอาการเจ็บคอ เป็นไข้ ปวดศีรษะ คัดจมูก ให้ติดต่อสายด่วน 1422 จะไปรับมาดูแลเต็มที่ ขณะนี้เชื่อว่าต้นทางการแพร่เชื้อคาดว่าจะอยู่ในเมืองเดียวคืออู่ฮั่น

Advertisement

นายอนุทิน กล่าวว่า หากมีเที่ยวบินใดที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น จะทำการแยกประตูขาเข้าไว้ โดยเที่ยวบินดังกล่าวจะมีที่สนามบินสุวรรณภูมิ 3 เที่ยว สนามบินดอนเมือง 2 เที่ยว สนามบินเชียงใหม่ 2 เที่ยว ซึ่งไม่ได้มีจำนวนผู้โดยสารมากจนเกินความสามารถของแพทย์หรือการควบคุม ทั้งนี้ ผู้โดยสารที่เป็นชาวต่างชาติหรือคนไทยที่เดินทางอยู่ในเที่ยวบินเสี่ยงจะได้รับบัตรที่มีคิวอาร์โค้ดระบุข้อมูลเพื่อแจ้งให้ทราบว่า หากมีอาการที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อให้แจ้งมาที่สายด่วน 1422 ซึ่งวันนี้มีผู้ป่วยที่สถานบันบำราศฯ อยู่ 4 ราย ที่เดินทางกลับมาจากเมืองอู่ฮั่น โดยผู้ป่วยเป็นผู้ติดต่อมาเอง เนื่องจากได้รับข้อมูลข่าวสารจากสื่อต่างๆ นับเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้ความรุนแรงของโรคลดระดับลงมาได้

“ผู้ป่วย 4 ราย มีอาการของเชื้อหวัดทุกราย แต่ไม่ได้เป็นเชื้อหวัดที่เป็นปัญหาในขณะนี้ อาจจะเป็นการได้รับมาจากสัมผัสกับคนใกล้ชิดที่เป็นหวัดธรรมดา จึงติดมา แต่ในช่วงนี้ เราจะต้องสันนิษฐานและทำเกินไว้ก่อนเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าเราสามารถป้องกันการระบาดของโรคได้ หากถามว่าเป็นข่าวดีหรือไม่คือ ยังไม่มีโรคระบาดมาในไทย สามารถดูแลควบคุม จำกัดขอบเขตการแพร่เชื้อได้ แต่ข่าวที่ไม่ควรออกไปคือ ประเทศไทยมีคนเข้ามาแล้วติดเชื้อ ขอให้ประชานชนคลายความกังวล ใช้ชีวิตอย่างปกติ ไม่มีอะไรรุนแรง” นายอนุทิน กล่าว

ทั้งนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า หากผู้ที่ประสงค์เดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่นด้วยความจำเป็น สามารถไปได้แต่ต้องระวังตัวเองด้วยการป้องกัน และไม่ไปอยู่ท่ามกลางสถานที่มีคนแออัด หากจะเดินทางไปท่องเที่ยวหากเลื่อนกำหนดการออกไปได้ ก็ขอให้เลื่อนไปก่อนเพื่อความสบายใจ แต่สถานการณ์ขณะนี้สามารถรับรองได้ว่ายังไม่มีเหตุการณ์อันตรายที่เกินการควบคุมของแพทย์

ด้าน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยทั้งหมด 4 ราย โดยรายที่ 1 คือ เด็กชาวจีน เพศชาย อายุ 3 ขวบ ผลตรวจจากห้องปฏิบัติการแล้วระบุว่าไม่พบเชื้อซาร์ส เชื้อเมอร์ส และอื่นๆ โดยพบเชื้อหลักที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ คือ AH3N2 และทำการรักษาตัวอยู่ที่ห้องแยกโรค มีอาการที่ดีขึ้นตามลำดับ คาดว่าจะมีการตรวจอีกครั้งใน 6-8 ชั่วโมง หลังจากนี้หากไม่พบไข้ก็จะอนุญาตให้กลับบ้านได้ รายที่ 2 คือ นักศึกษาไทยอายุ 24 ปี ที่ไปศึกษาต่อเมืองอู่ฮั่นและได้เดินทางกลับมาที่ประเทศไทย พบว่ามีอาการของไข้และได้ไปรักษาตัวที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ภายหลังได้รับข้อมูลว่ามีการเปิดรักษาอาการเสี่ยงดังกล่าว จึงได้ขอส่งตัวมารักษาที่สถาบันบำราศฯ ผลตรวจจากห้องปฏิบัติการแล้วระบุว่าไม่พบเชื้อซาร์ส เชื้อเมอร์ส หรือไข้หวัดนก โดยพบเชื้อที่ก่อให้เกิดไข้หวัด เช่น เชื้อไข้หวัดใหญ่ (Influenza) Respiratory Syncytial Virus (RSV) หรือเชื้อที่ก่อให้เกิดอาการของระบบทางเดินหายใจ หลังจากนี้จะรอให้ไข้หายเป็นปกติและจึงทำการตรวจซ้ำ ด้วยการตรวจในห้องปฏิบัติการมากกว่า 2 แห่งขึ้นไปในการยืนยัน รายที่ 3 คือ นักศึกษาไทย อายุ 22 ปี ที่ศึกษาอยู่ประเทศจีนโดยเดินทางกลับมาประเทศไทย ผ่านการคัดกรองที่สนามบินพบว่ามีไข้ จึงได้ทำการรักษาในห้องแยกโรค แต่ไม่ได้มีอาการของโรคติดเชื้อรุนแรงของระบบทางเดินหายใจส่วนล่างหรือเรียกว่า ปอดอักเสบ รายที่ 4 ผู้ป่วยอายุราว 40 ปี รักษาอยู่ที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง การได้รับเชื้อหวัดเนื่องจากเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศจีนและมีความจำเป็นต้องไปต่อเครื่องบินที่เมืองอู่ฮั่น และเมื่อกลับมาพบว่ามีอาการเสี่ยงจึงไปพบแพทย์ และได้เก็บตัวอย่างของเชื้อเข้าสู่ห้องปฏิบัติการแล้วและรอผลตรวจอยู่ ขณะนี้จึงอยู่ในระหว่างการพิจารณาว่าจะส่งตัวมายังสถานบันบำราศฯหรือไม่

“ขณะนี้อาการดีขึ้นทุกราย อาการไม่รุนแรง ซึ่งอาการรุนแรงหมายถึง การเป็นปอดอักเสบ ที่มีหายใจแรง หอบ จนกระทั่งระบบหายใจล้มเหลว การติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน เกิดภาวะช็อก แต่ทั้ง 4 ราย มีอาการปกติ แต่เนื่องจากมาตรการที่กำหนดไว้เป็นมาตรฐานคือ จะต้องแยกไว้ก่อนและดูแลอย่างเต็มที่” นพ.สุวรรณชัย กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image