เมื่อวันที่ 7 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการเปิดคลินิกกัญชาทางการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้าน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ว่า ปรากฎว่าในวันที่ 7 มกราคม เวลา 13.00 น. มีประชาชนลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่น Ganja inTTM เป็นจำนวน 3,708 ราย ถือว่าเกินจำนวนที่กำหนดไว้ว่าระหว่างวันที่ 6-17 มกราคม ที่จะเปิดรับคนลงทะเบียนเพียงวันละ 300 คน
นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวถึงกรณีที่ประชาชนมาลงทะเบียนผ่านแอพพ์ฯ จำนวนมากว่า ทางกรมแพทย์แผนไทยฯ ยังเปิดให้บริการต่อเนื่องไป แต่จะลดจำนวนต่อวันลงเหลือวันละ 100-150 ราย หลังจากหมดช่วงมหกรรมกัญชาทางการแพทย์ฯ เจ้าหน้าที่ต่างๆเป็นการบูรณาการมา จากหน่วยต่างๆ จะกลับหน่วยงาน ทั้งนี้แเนะนำให้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษา 21 โรงพยาบาลทั่วประเทศ ที่เปิดรองรับ แต่ถ้ายังมีผู้ป่วยเข้ามาที่คลินิกกัญชา กรมแพทย์แผนไทยฯ ก็พร้อมรับการรักษา
ด้าน นายเดชา ศิริภัทร หมอพื้นบ้าน ผู้เชี่ยวชาญการใช้กัญชาทางการแพทย์ กล่าวว่า น้ำมันกัญชาที่ใช้รักษาอาการผู้ป่วยมีทั้งสูตรที่ตนได้คิดค้นขึ้น และสูตรของทางองค์การเภสัชกรรม (อภ.) สำหรับสูตรของ อภ.จะสกัดแยกเป็นซีบีดีและทีเอชซี ส่วนสูตรของตนจะเอาน้ำมันทั้งหมดโดยไม่มีการแยกมาผลิตเป็นยา โดยสธ.ได้นำสูตรของตนไปแจกตามโรงพยาบาล 22 แห่ง ร่วมหมื่นคน ยังไม่พบผู้ป่วยรายใดได้รับอันตรายจากการใช้
“น้ำมันกัญชามีการใช้มานานแล้ว เพียงแต่ยังไม่ถูกกฎหมายเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ถูกกฎหมายแล้วจึงค่อนข้างมีความมั่นใจ แต่หมอ แพทย์ และคนไข้บางคนยังไม่ทราบจึงไม่มั่นใจในการใช้ ดังนั้น สธ.จึงได้นำมาแจกที่กรมแพทย์แผนไทยฯ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับหมอ แพทย์ และคนไข้ต่อไป สำหรับโรงงานในการผลิตน้ำมันกัญชาได้มาตรฐาน ผ่านการตรวจสารปนเปื้อนที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์” นายเดชา กล่าว
ด้าน นพ.ประเสริฐ มงคลศิริ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล (รพ.) บ้านฉาง แพทย์แผนปัจจุบัน กล่าวว่า เกณฑ์การรับยาที่มีกัญชาเป็นส่วนผสมนั้น เดิมต้องมีการบันทึกเข้าระบบแจ้งมาที่แพทย์แผนไทย ซึ่ง 100 คน มีกฎเกณฑ์ที่สามารถใช้น้ำมันกัญชาได้เพียง 20 คน ส่วนอีก 80 คน ยังไม่เข้าเกณฑ์ จึงยังไม่สามารถใช้กัญชาทางการแพทย์ได้ แต่ขณะนี้สามารถรับได้อย่างทั่วถึง ทั้งนี้ ในการรักษาไม่ได้ให้ผู้ป่วยหยุดการรักษาจากแพทย์แผนปัจจุบัน เพียงแต่ให้ใช้น้ำมันกัญชาในการเสริมในการรักษา ของ อภ.ยังไม่เคยใช้ แต่เท่าที่ศึกษาดู 1.มีความเข้มข้นมากกว่า 2.สารประกอบตัวอื่นที่มีอยู่ในน้ำมันกัญชาไม่มีในสูตรของ อภ. เพราะไปสกัดโดยการ อ้างอิงยาแผนปัจจุบัน
นายชลิต ชินตะวัน ผู้ป่วยมะเร็งตับ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยรักษาด้วยสมุนไพรต่างๆ หลายชนิด ทั้งเฉาเหว่ย อังกาบหนู เกลือดำ แต่เมื่อได้ทราบจากข่าวว่าคลินิกกัญชาเปิดให้บริการในวันที่ 6 มกราคมนี้ หลายคนบอกว่าเมื่อใช้กัญชาเข้ารับการรักษาเกี่ยวกับมะเร็งตับแล้วอาการดีขึ้น จึงได้เดินทางมา ก่อนหน้านี้ แพทย์แผนปัจจุบันให้รักษาด้วยการทำคีโม และฉายรังสี ซึ่งจะอยู่ได้ 6 เดือน จึงเลือกทำการรักษาแบบธรรมชาติด้วยกัญชา รักษาดีกว่า
