สำนักงานประกันสังคม เตรียมเปิดใช้ระบบลงทะเบียนชำระเงินประกันสังคมผ่าน ระบบอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมกันทั่วประเทศ 2 กรกฎาคมนี้ เพื่อความรวดเร็ว สะดวก สบายของนายจ้างและผู้ประกันตน และความสอดคล้องนโยบายของรัฐบาล
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน สำนักงานประกันสังคมจัดงานแถลงข่าวการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพระบบการรับชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคมเพื่อเข้าสู่ระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ตามนโยบายของรัฐบาล โดยนายโกวิท สัจจวิเศษ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคมมีหน้าที่จัดเก็บเงินสมทบจากนายจ้างและผู้ประกันตน เพื่อนำมาจ่ายประโยชน์ทดแทนให้ผู้ประกันตน/ผู้มีสิทธิ ซึ่งมีสาขากว่า 137 แห่ง แต่ก็ไม่เพียงพอต่อปริมาณนายจ้างและผู้ประกันตน ประกอบกับกำลังเจ้าหน้าที่มีจำกัด จากข้อมูล ณ วันที่ 5 มิถุนายน 2559 พบว่า มีนายจ้างที่ขึ้นทะเบียนกองทุนประกันสังคมและมีหน้าที่จ่ายเงินสมทบจำนวน 431,395 แห่ง ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 1,225,267 ราย ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 จำนวน 2,199,354 ราย และนายจ้างที่ขึ้นทะเบียนกองทุนเงินทดแทนจำนวน 359,802 แห่ง
สำนักงานประกันสังคมจึงมีความจำเป็นต้องพัฒนาระบบจ่ายเงินด้วยการสร้างเครือข่ายพันธมิตรในการให้บริการรับ-จ่ายเงิน ให้นายจ้างและผู้ประกันตนได้รับความสะดวกสบาย มีระบบตรวจสอบเพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการทุจริตหรือผิดพลาดในการรับ-จ่ายเงิน สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาการชำระเงินของประเทศให้เข้าสู่ระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-playment โดยคาดว่าสิ้นปีนี้จะผู้หันมาใช้บริการเกิน 50% อย่างแน่นอน
ด้านนางพรพรรณ ศุภนคร รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ระบุว่า สำนักงานประกันสังคมจะดำเนินการและประชาสัมพันธ์เชิงรุกให้นายจ้างและผู้ประกันตนใช้บริการชำระเงินสมทบผ่านระบบธนาคารและหน่วยบริการ โดยเริ่มพร้อมกันทั่วประเทศ 2 กรกฎาคมนี้ และคาดว่าจะมีธนาคารเข้าร่วมทุกธนาคารในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งอาจติดปัญหาในการออกหลักฐานหรือใบเสร็จรับเงิน และข้อจำกัดของแต่ละธนาคาร
สำหรับช่องทางชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคมของนายจ้าง ตามมาตรา 33 ชำระหน้าเคาน์เตอร์ธนาคาร 3 แห่งคือ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารธนชาต เมื่อชำระแล้วนายจ้างจะได้รับใบเสร็จทันที หรือชำระผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต มี 7 ธนาคารรองรับ ได้แก่ ธนาคารซิตี้แบงค์ ธนาคารมิซูโฮ คอร์ปอเรต จำกัด ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารซูมิโต มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกร ธนาคารกรุงไทย ลงทะเบียนทาง www.sso.go.th จากนั้นธนาคารจะออกใบเสร็จส่งให้นายจ้างทางไปรษณีย์
ช่องทางชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคมของผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ชำระผ่านหน้าเคาน์เตอร์ธนาคาร 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารธนชาต ชำระผ่านระบบอินเตอร์เน็ตผ่าน 6 ธนาคาร คือ ธนาคารกรุงไทย กรุงศรีอยุธยา ธนชาต กสิกรไทย ไทยพาณิชย์ ทหารไทย ผู้ยื่นประกันตนตามมาตรา 39 สามารถยื่นแบบคำขอส่งเงิน ด้วยวิธีหักบัญชีเงินฝากธนาคาร โดยนำสมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ณ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ จังหวัด สาขาที่ขึ้นทะเบียน และนำเงินเข้าให้เพียงพอ เนื่องจากระบบจะคิดเงินทุกวันที่ 15 ของเดือน ก่อนจะส่งใบเสร็จให้ทางไปรษณีย์
ช่องทางชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคมของผู้ประกันตนตามมาตรา 40 หน้าเคาน์เตอร์ ผ่านธนาคาร 2 แห่ง คือ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือผ่านหน่วยบริการอื่น ได้แก่ เคาน์เตอร์เซอร์วิส หรือ เทสโก้โลตัส เมื่อชำระเงินจะได้รับใบเสร็จทันที ส่วนช่องทางธนาคาร สามารถชำระผ่านธนาคาร 6 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยยื่นหนังสือยินยอม ที่ธนาคารพร้อมสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ยื่นต่อสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ จังหวัด สาขา โดยจะถูกหักเงินทุกวันที่ 20 ของเดือน และขอรับใบเสร็จได้ที่สำนักงานประกันสังคมที่ขึ้นทะเบียนไว้ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าชมได้ที่ www.sso.go.th หรือโทร 1560 ตลอด 24 ชั่วโมง
