อุทยานฯ เขาใหญ่ มึนหนัก! “ด่านเนินหอม” อยู่มา 58 ปี ส่อเป็นที่มีโฉนด ทั้งด่านเก็บเงิน-ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว คาดโฉนดลอยมาทับเมื่อปี’45 กอ.รมน.จ่อเรียกดูเอกสารสิทธินักการเมืองดังปราจีนเพิ่ม เผยคดีรุกป่าเขาใหญ่อื้อรีสอร์ต-สวนน้ำ เขต อ.ประจันตคาม ดีเอสไอรับเรื่องแล้วแต่เงียบเป็นเป่าสาก
เมื่อวันที่ 19 มกราคม นายวิชัย พรลีแสงสุวรรณ์ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เขาใหญ่ แจ้งความกลุ่มบุคคลที่เชื่อมโยงกับนักการเมืองดังระดับชาติ บุกรุกพื้นที่อุทยานฯ เขาใหญ่ ว่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้แจ้งความดำเนินคดีกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องแล้ว จากนี้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนในการดำเนินการกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม อุทยานฯ เขาใหญ่จะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของสำนักตรวจสอบเอกสารสิทธิ กรมอุทยานแห่งชาติฯ ด้วย ขณะที่ในส่วนของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าแห่งชาติ (คปป.) ที่มีรัฐมนตรีว่าการ ทส. เป็นประธานต่อไป
แหล่งข่าวจาก กอ.รมน.เปิดเผยว่า นอกจากการดำเนินคดีล่าสุดกับนักการเมืองใหญ่ บริเวณ ต.เนินหอม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ใกล้อ่างเก็บน้ำคลองไม้ปล้อง โดยมีการนำโฉนดมาแสดง 3 แปลง พบว่ามีการบุกรุกพื้นที่เข้าไปในเขตอุทยานฯเขาใหญ่ รวม 6 จุด พื้นที่รวม 11-3-96 ไร่ และคณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันจัดทำบันทึกตรวจยึดพื้นที่บุกรุกอุทยานฯ คิดค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นเงิน 1,798,500 บาทนั้น กอ.รมน.และกรมอุทยานแห่งชาติฯ กำลังอยู่ระหว่างการเรียกขอดูโฉนดที่ดินอีก 2 แปลง ซึ่งมีเนื้อที่แปลงละประมาณ 10 กว่าไร่ ออกเมื่อปี 2545 ทับที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่ ขญ.12 (เนินหอม) ทับเส้นทางขึ้นเขาใหญ่ และด่านเก็บเงินค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ โดยเป็นที่ตั้งของอาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยวขนาดใหญ่ และห้องน้ำไว้สำหรับบริหารนักท่องเที่ยวอีกหลายห้อง ซึ่งคาดว่าบริเวณดังกล่าวถูกนำไปออกโฉนดแล้ว ซึ่งสร้างความตกตะลึงให้กับคณะเจ้าหน้าที่อย่างมาก ทั้งนี้อุทยานฯ เขาใหญ่ประกาศมาตั้งแต่ปี 2505 และเป็นอุทยานฯ แห่งแรกของไทย
ทั้งนี้ ในช่วงปี 2555 กรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ของนักการเมืองครอบครัวดังกล่าว บุกรุกอุทยานฯ พื้นที่ป่าสงวนและอุทยานฯ เขาใหญ่ ในพื้นที่ ต.บุฝ้าย อ.ประจันตคาม พบมีการเปลี่ยนทางน้ำ สิ่งปลูกสร้าง และหุ่นไดโนเสาร์ขนาดใหญ่จำนวนมาก โดยมีการนำโฉนดมาแสดงจำนวน 22 แปลง โดยพบว่าส่วนใหญ่เป็นการออกโฉนดตามนโยบายแปลงสินทรัพย์เป็นทุนในช่วงรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ปีช่วงปี 2545 เป็นต้นมา ก่อนที่เรื่องดังกล่าวจะเงียบหายไป
กระทั่งต่อมาในช่วงปี 2560 คณะเจ้าหน้าที่นำโดยกองบังคับการปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กรมอุทยานแห่งชาติฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าดำเนินการตรวจสอบในพื้นที่อีกครั้ง พบมีการก่อสร้างรีสอร์ตและสวนน้ำขนาดใหญ่ ในเนื้อที่กว่า 200 ไร่ โดยพบว่ามีการรุกล้ำพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้นจากเดิมรวมทั้งสิ้น 7 แปลง รวมจำนวน 68 ไร่ ซึ่งได้รวบรวมหลักฐานให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการตามกฎหมาย และมีการดำเนินคดีการบุกรุกพื้นที่ป่าบริเวณเขาน้อย ต.บุฝ้าย อ.ประจันตคาม อีกจำนวนหนึ่งด้วย อย่างไรก็ตาม ต่อมามีข้อมูลว่าคณะกรรมการในระดับ จ.ปราจีนบุรี เสนอให้เพิกถอนโฉนดที่ดิน จำนวน 22 แปลง ดังกล่าว ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องเงียบหายไปอีกครั้ง เพราะอยู่ในเขตอิทธิพลของนักการเมืองรายดังกล่าว ขณะที่การดำเนินการของดีเอสไอในส่วนของคดีอาญาก็ยังไม่ทราบความคืบหน้า จนมาเกิดกรณีล่าสุดขึ้นอีก
