‘ปิยะสกล’ ย้ำสังคมอย่าเหมารวม ผู้เสพยาไม่ใช่อาชญากร แต่เป็นผู้ป่วยต้องบำบัด

เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข( สธ.) กล่าวถึงกรณีกระทรวงยุติธรรมมีแนวคิดให้กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการช่วยเหลือบำบัดผู้ติดยาเสพติด ว่า สธ.ยินดีที่จะรับผู้ติดยาเสพติดเข้าเป็นผู้ป่วยเพื่อบำบัดรักษาอาการ โดยในส่วนของกรมการแพทย์จะมีสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ที่ให้บริการช่วยเหลือบำบัดกระจายทั่วทุกภูมิภาค ทั้งเชียงใหม่ สงขลา ขอนแก่น ปัตตานี แม่ฮ่องสอน และอุดรธานี แต่จะให้หน่วยงานใดรับผิดชอบเพียงหน่วยงานเดียวไม่ได้ เพราะจะทำให้เกิดภาระงานหนักเพิ่มขึ้น ทุกส่วนต้องช่วยกัน

นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ปัจจุบัน รพ.สังกัด สธ.ทั้งระดับรพ.ศูนย์ รพ.ประจำจังหวัดหรือรพ.ประจำอำเภอจะมีคลินิกบำบัดยาเสพติด ซึ่งมีศักยภาพที่จะรับผู้ติดยาเข้าเป็นผู้ป่วยเพื่อบำบัดได้ แต่ต้องหาแนวทางสร้างระบบเพื่อให้สามารถรองรับผู้ติดยาเข้าบำบัดได้มากขึ้น หรืออาจจะปรับจากคลินิกเลิกเหล้า เลิกบุหรี่ก็ได้ ซึ่งจะต้องเพิ่มขีดความสามารถตรงนี้

“ผู้ที่เข้าข่ายเป็นผู้ป่วยในการเข้ารับการบำบัดรักษา คือ ผู้ที่ติดยาเสพติดหรือเฉพาะผู้เสพเท่านั้น ไม่ใช่ผู้ขายหรือผู้ผลิตหรือผู้ที่เสพแล้วไปก่ออาชญากรรมกลายเป็นอาชญากรที่จะมีความผิดตามกฎหมาย แต่หากเป็นทั้งผู้เสพ ผู้ขายหรือผู้ผลิตก็จะมีความผิด คนที่เข้านิยามของผู้ป่วยนั้น หมายถึงเฉพาะคนเสพเพียงอย่างเดียว” นพ.ปิยะสกล กล่าวและว่า ในช่วงแรกของการดำเนินการอาจติดขัดปัญหาบ้าง แต่ต้องร่วมกันทำงานด้วยใจก็จะปรับได้ อยากขอความร่วมมือทุกฝ่ายร่วมกันทำงาน เมื่อทุกส่วนร่วมกันภาระงานก็จะไม่หนัก ทั้งโรงพยาบาลรัฐ เอกชนต้องช่วยกัน ส่วนวัดหรือมูลนิธิที่จะเข้ามาร่วมช่วยเหลือบำบัดผู้ติดยา ก็จะต้องมีการเข้าไปดูแล กำกับ ขณะที่ผู้ที่จะเข้ามาบำบัดต้องเข้ามาด้วยความสมัครใจต้องการอยากที่จะเลิก ซึ่งครอบครัวและเพื่อนฝูงต้องช่วยเหลือจะให้สธ.ไปดึงผู้ป่วยมาบำบัดไม่ได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image