“ดำรงค์”เสนอนายกฯตั้งปลัด สปน.สอบนักการเมืองรุกเขาใหญ่ ชี้กระทบสถานะมรดกโลกแน่ หวั่นเรื่องเงียบหายเหมือนที่ผ่านมา ระบุภาพถ่ายทางอากาศมัดแน่นป่ากำมะหยี่ไร้ร่องรอยทำกิน ชงกมธ.ที่ดินฯ เรียกอุทยานฯ-ที่ดินแจง ขนาดอ่างเก็บน้ำพระราชดำริยังมีโฉนดทับ แต่โฉนดตกน้ำเจ้าของกลับเงียบไม่ออกมาโวย แฉกลโกงออกโฉนดใช้นอมินีคั่นแปลงชิดแนวป่า
เมื่อวันที่ 23 มกราคม ที่รัฐสภา นายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย แถลงถึงกรณีนักการเมืองบุกรุกออกโฉนดที่ดินในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ว่า กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่อุทยานฯ เขาใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่มรดกโลก เป็นการไปแอบออกหลักฐานที่ดินโดยมีเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ ไปร่วมมือด้วย ไปยกแนวเขตเดิมที่มี พ.ร.ฎ.ประกาศเขตอุทยานฯ เขาใหญ่ ออกเป็นแนวอื่น ทำให้กรมที่ดินสามารถออกหลักฐานได้ เรื่องนี้ตนเรียกร้องไปยังรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ให้ตั้งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธานสอบสวนกรณีดังกล่าวทั้งหมด ระหว่างกรมที่ดินกับกรมอุทยานฯ โดยเฉพาะที่รอบๆ เขาใหญ่ทั้งจ.นครราชสีมา ปราจีนบุรี นครนายก หลักฐานที่ออกโฉนดเอามากางดูทั้งหมด ที่ยังไม่พบอีกจำนวนมากเพราะถึงขนาดไปออกทับที่ด่านเนินหอม ที่เป็นด่านเก็บเงิน ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งหน่วยราชการไม่รู้เรื่อง แต่เจ้าหน้าที่ระดับล่างรู้เรื่อง
“ถ้าหากปล่อยให้กรมอุทยานฯ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) หรือกรมที่ดิน ดำเนินการไปเรื่องก็เงียบหายอยู่อย่างนี้ จับไปทีไรก็เงียบหายๆ ต้องให้ปลัดสำนักนายกฯ เป็นประธานในการดำเนินการเรื่องนี้ และแจ้งผลการสอบสวนให้ประชาชนได้รับทราบ เพราะถ้าขืนปล่อยไปขนาดอ่างเก็บน้ำยังถูกออกโฉนด แสดงว่าโฉนดนี้มีมาก่อนอ่างเก็บน้ำหรือไม่ เพราะเป็นอ่างตามโครงการพระราชดำริ คุณมีหลักฐานอยู่ทำไมคุณไม่โวยวาย และมาตรวจเจอภายหลัง ถ้ามีคุณมีโฉนดบริสุทธิ์ คุณจะต้องโวยวายแต่แรกแล้ว ดังนั้นเรื่องนี้จึงต้องมีการสอบให้กระจ่าง”นายดำรงค์กล่าว
เมื่อถามว่ากรณีการออกโฉนดทับพื้นที่อุทยานฯเขาใหญ่จะส่งผลต่อสถานะมรดกโลกอย่างไร นายดำรงค์ กล่าวว่า ตอนนี้คณะกรรมการมรดกโลกน่าจะยังไม่รู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาเราไปอธิบายว่า มีการดำเนินการป้องกันการบุกรุกอย่างสวยหรู การสร้างอ่างเก็บน้ำก็สามารถปลูกป่าทดแทนได้ แต่วันนี้ไส้ในมันไม่ใช่อย่างนั้น วันนี้เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่คณะกรรมการมรดกโลกอาจจะนำกลับมาพิจารณาอีกครั้งได้ และกระทบต่อสถานะมรดกโลกของอุทยานฯเขาใหญ่ ทำให้ประเทศไทยเสียชื่อเสียงได้ การบุกรุกพื้นที่อุทยานฯถือเป็นเรื่องร้ายแรงมากอยู่แต่พื้นที่นี้เป็นถึงมรดกโลกที่มีพันธสัญญากับต่างประเทศ และเป็นพื้นที่อื่นยังเป็นเรื่องของคนยากคนจนที่ผ่อนผันได้แต่นี่เป็นของของมหาเศรษฐีหรือไม่
นายดำรงค์ กล่าวว่า ทั้งนี้จะเสนอต่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ให้เรียกกรมอุทยานฯ และกรมที่ดินมาชี้แจงกรณีการออกโฉนดในพื้นที่ดังกล่าวด้วย และลำดับต่อไปอาจจะต้องเรียก รมช. ศึกษามาชี้แจงเช่นกัน อย่างไรก็ตามทั้งหมดขึ้นอยู่กับภาพถ่ายทางอากาศ หากไม่มีร่องรอยการทำกินมาก่อนปี 2497 ถึงจะมีโฉนด ส.ค. 1 หรือใบจองก็ไม่สำคัญ ก่อนประกาศเขตอุทยานฯ เขาใหญ่เมื่อปี 2505 ภาพถ่ายทางอากาศ ไม่มีร่องรอยทำกินเลย เป็นป่ากำมะหยี่มันไม่มีทางที่จะไปต่อได้ อย่างไรก็เป็นการออกเอกสารมิชอบ แต่ต้องรู้สาเหตุว่าการออกหลักฐานนี้เกิดจากสาเหตุอะไร การมีหลักฐาน ราชการเป็นผู้ออกให้ แต่ต้องดูกว่าการได้มาของหลักฐานหรือโฉนดเป็นรายแรกได้มาอย่างไร พร้อมทั้งมีการแปลภาพถ่ายทางอากาศซึ่งจะทำให้มัดตัวผู้เกี่ยวข้องได้
รายงานข่าวจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช แจ้งว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯส่วนกลางกำลังตรวจสอบสารบบที่ดินรอบเขาใหญ่ที่ถูกนำไปออกโฉนด โดยพบว่าในรายของนักการเมืองใหญ่ใน จ.ปราจีนบุรีนั้น มีการออกโฉนดที่ดินบริเวณชายขอบอุทยานฯเขาใหญ่เป็นแนวยาวตั้งแต่ด่านเนินหอมอ.เมืองไปถึงพื้นที่ อ.ประจันตคาม เบื้องต้นคาดว่ามีมากกว่า 100 แปลง ไม่นับรวมที่ให้นอมินีถือครอง หลายจุดมีสภาพเป็นป่าสมบูรณ์ยังไม่มีร่องรอยการเปิดป่าโดยลักษณะการออกโฉนดส่วนใหญ่บริเวณที่ใกล้แนวป่าจะให้เป็นชื่อนอมินีถือครองคั่นกับโฉนดที่เป็นชื่อของนักการเมืองสลับกันไปตลอดแนว โดยมีอดีตเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ไปทำแนวเขตร่นเข้าจนทำให้กรมที่ดินสามารถออกเอกสารสิทธิได้ โดยเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ส่วนกลางจะลงพื้นที่เขาใหญ่เพื่อตรวจสอบอีกครั้งในเร็วๆนี้
