‘กรมควบคุมโรค’ อัพเดตสถานการณ์ ‘โคโรนา’ พร้อมแจงมาตรการรับมือในไทย

จากกรณีที่ไวรัส สายพันธุ์ใหม่ “โคโรน่า (VIRUS CORONA)” ก่อกำเนิดขึ้นที่ มณฑล อู่ฮั่นของสาธารณรัฐประชาชนจีน และมีการพบการติดเชื้อเกิดขึ้นทั่วโลกนั้น

ล่าสุด “กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข” แถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ภายในประเทศว่า ตั้งแต่วันที่ 3 – 25 มกราคม 2563 กรมควบคุมโรคได้ดำเนินการเฝ้าระวังคัดกรองผู้โดยสารเครื่องบินใน เส้นทางที่บินตรงมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศ ยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานกระบี่ (เริ่มคัดกรองวันที่ 17 มกราคม 2563) จำนวน 137 เที่ยวบิน ผู้เดินทางและลูกเรือได้รับการคัดกรอง ทั้งสิ้น 21,522 ราย และวันที่ 25 มกราคม 2563 คัดกรอง ผู้โดยสารจากสายการบินของกว่างโจว 5 เที่ยวบิน ผู้เดินทางและลูกเรือได้รับการคัดกรอง จ านวน 775 รายโดยพบผู้ป่วยอาการเข้าได้ตามนิยามเพิ่มขึ้น จำนวน 24 ราย ทำให้รวมพบผู้ป่วยที่มีอาการเข้าได้ตามนิยามทั้งหมด 84 ราย โดย 24 ราย คัดกรองได้ที่สนามบิน

นอกจากนี้มีผู้ป่วยที่มีอาการเข้าตามนิยามไปรับการตรวจรักษาที่ โรงพยาบาลเอกชน 38 ราย โรงพยาบาลรัฐ 14 ราย และสถาบันบำราศนราดูร 7 ราย รวมทั้งมีโรงแรมรายงาน ผู้ป่วย 1 ราย และในจำนวนนี้ได้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลรัฐ 19 ราย (นครปฐม กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต ชลบุรี และนครสวรรค์) สถาบันบ าราศนราดูร 11 ราย และโรงพยาบาลเอกชน 9 ราย รวม 39 ราย ไม่พบผู้ป่วยอาการรุนแรง ผู้ป่วยอาการดีขึ้นและได้กลับบ้านแล้วจำนวน 45 ราย พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ Novel Coronavirus 2019 จำนวน 5 ราย ส่วนผู้ป่วยรายอื่นที่ทราบเชื้อที่เป็นสาเหตุ และได้รับการวินิจฉัยสุดท้าย ประกอบด้วย Influenza A 11 ราย, Influenza B 10 ราย, Influenza C 1 ราย, Adenovirus 1 ราย, Coronavirus OC43 1 ราย, Streptococcus pneumoniae 1 ราย, Bronchitis 4 ราย, Acute Nasopharyngitis 2 ราย, Pharyngitis 2 ราย, Common cold 1 ราย, RSV infection 3 ราย และรอผลตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ 42 ราย

ด้านมาตรการในประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2563 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ยกระดับศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน เป็นระดับ 3 เพื่อติดตามสถานการณ์โรคทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด และบริหารจัดการทรัพยากร เสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบการเฝ้าระวังค้นหาผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสที่มาจากต่างประเทศ โดยเน้นการคัดกรองไข้ ณ ช่องทางเข้าออกประเทศที่ท่าอากาศยาน 5 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยาน นานาชาติสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ตและกระบี่ เพิ่มการเฝ้าระวังที่โรงพยาบาล สนับสนุนการเตรียม ความพร้อมสำหรับรับมือโรคติดต่ออุบัติใหม่ โดยครอบคลุมระบบบริการสาธารณสุขทั้งในภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนแหล่งท่องเที่ยว โดยบูรณาการการท างานร่วมกันของกระทรวงคมนาคม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานต ารวจแห่งชาติ และ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม และจัดทำรายงานสถานการณ์ฉบับภาษาอังกฤษและใบความรู้ที่เกี่ยวข้องกับโรคในฉบับ ภาษาต่างประเทศ เผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์กรมควบคุมโรคนอกจากนี้วันที่ 23 มกราคม 2563 ได้ยกระดับการ แจ้งเตือนโรคในผู้เดินทาง เป็นระดับ 3 ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาด

Advertisement

โดยมีคำแนะนำยังประชาชนดังนี้
– โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ป้องกันได้โดยใช้หลักการป้องกันโรคติดต่อทางเดินหายใจ ได้แก่ ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย และไม่คลุกคลีกับผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ
– สามารถเดินทางไปประเทศจีนได้ แต่ระหว่างเดินทางในต่างประเทศขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือมีมลภาวะ และไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอจาม หากเลี่ยงไม่ได้ให้สวมใส่หน้ากากอนามัย
– ภายใน 14 วัน หลังเดินทางกลับจากเมืองอู่ฮั่น หากมีไข้ ร่วมกับอาการทางเดินหายใจ ได้แก่ ไอ เจ็บคอ มีน้ ามูก หายใจเหนื่อยหอบ ควรรีบพบแพทย์ทันที พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทางไปประเทศจีน
– หลีกเลี่ยงการไปตลาดที่ขายซากสัตว์ป่าหรือที่มีชีวิต และการสัมผัสโดยไม่ใช้ถุงมือ
– หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ า และสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่น ามือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น
– ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น (เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ า ผ้าเช็ดตัว) เนื่องจากเชื้อก่อโรคทางระบบทางเดิน หายใจสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ
– รับประทานอาหารปรุงสุกร้อน

ทั้งนี้ สามารถดาวน์โหลดเอกสารที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 ได้ที่ https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image