ไม่หลับไม่นอน ‘อนุทิน’ ไลฟ์สดเที่ยงคืนครึ่ง แจงสถานการณ์ไวรัส ‘อู่ฮั่น’ ยันไทยเอาอยู่

เมื่อวันที่ 27 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลา 00.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้แพร่ภาพสดเฟซบุ๊ก “Anutin Charnvirakul” อธิบายสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่มีต้นกำเนิดที่เมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน

นายอนุทินกล่าวว่า ตั้งแต่มีรายงานการอุบัติของโรค เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน สธ.เริ่มทำงานทันที โดยลงพื้นที่ตรวจความพร้อมของระบบคัดกรองผู้โดยสารที่สนามบินสุวรรณภูมิ และเริ่มต้นคัดกรองอย่างเข้มงวด จนกระทั่งถึงวันนี้ ไวรัสข้างต้นเป็นเรื่องที่คนทั้งโลกสนใจ

“สำหรับประเทศไทย เราเคยผ่านสถานการณ์แบบนี้ เรามีประสบการณ์ที่ได้ปรับใช้กับสถานการณ์ปัจจุบันไปแล้ว เราพบผู้ป่วยทั้งสิ้น 8 คน 100% เรารักษาได้ บางส่วนปลอดเชื้อให้กลับบ้าน ที่เหลืออาการดีขึ้นตามลำดับ ที่เราพบมากก็เพราะเราตรวจละเอียด ซึ่งได้ประสานกับผู้บริหารขององค์การอนามัยโลก และผู้บริหารของ สธ.มาตลอดว่าสถานการณ์เป็นอย่างนี้ ควรทำอย่างไร และเราก็ทำตามคำแนะนำนั้นอย่างเคร่งครัด หากองค์การอนามัยโลก และทีมผู้บริหารของกระทรวงเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ร้ายแรง ต้องปรับมาตรการ ก็พร้อมปรับ แต่มาตรการที่ใช้อยู่ตอนนี้ เหมาะสมดีแล้ว” นายอนุทินกล่าว

Advertisement

นายอนุทินกล่าวต่อไปว่า รัฐบาลมีความห่วงใยต่อปัญหานี้เช่นกัน ส่วนตัวเป็นรองนายกรัฐมนตรีดูแลกำกับ 3 กระทรวงแนวหน้าที่จะต้องรับมือกับไวรัส คือ สธ. ต้องดูแลเรื่องการควบคุม และรักษา กระทรวงคมนาคม ต้องดูแลเรื่องจัดการผู้โดยสาร เพื่อให้ง่ายต่อการคัดกรอง และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ต้องประสานกับผู้ประกอบกิจการห้องพัก ทัวร์ ไปจนถึงนักท่องเที่ยว เพื่อให้เข้าใจเรื่องการปฏิบัติตัว หากมีผู้ป่วยสำแดงอาการ หรือมีความเสี่ยง จะได้ควบคุมสถานการณ์อย่างทันท่วงที

“โดยมาตรการของ สธ. ขณะนี้ หากพบผู้ต้องสงสัยว่าจะมีเชื้อไม่ว่าจะมาทางไหน เราจะส่งเข้าสถาบันบำราศนราดูร เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อยู่ในร่างกายหรือไม่ การรักษาจะอยู่ในห้องคุมความดัน รับรองว่าเชื้อไวรัสออกจากห้องไม่ได้ ขณะที่ตามต่างจังหวัด เราเตรียมสถานที่สำหรับการรักษาควบคุมไว้แล้วเช่นกัน ส่วนความรุนแรงของการระบาด หลักสากลแบ่งออกเป็น 5 ระดับ ซึ่งแต่ละระดับจะหมายถึงมาตรการการจัดการที่เข้มข้นขึ้น ได้แก่ ระดับที่ 1 พบผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อ ระดับที่ 2 พบผู้ป่วย และการติดเชื้อนั้น เกิดขึ้นหรืออุบัติขณะที่อยู่ต่างประเทศ ระดับที่ 3 พบผู้ป่วย และการติดเชื้อนั้น เกิดขึ้นขณะที่อยู่ในประเทศ ระดับที่ 4 พบผู้ป่วย โดยติดต่อจากคนสู่คนในประเทศ และระดับที่ 5 พบผู้ป่วย โดยติดต่อจากคนสู่คนระหว่างประเทศ ของประเทศไทย ความรุนแรงอยู่ในระดับ 1-2 แต่หากความรุนแรงเพิ่มขึ้น เราก็พร้อมหารือกับองค์การอนามัยโลก ผู้บริหารในกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อยกระดับแผนการรับมือต่อไป ขอให้มั่นใจว่าตอนนี้ เราคุมสถานการณ์ได้” นายอนุทินกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image