สธ.จับมือ ดีอี-ตำรวจ เตรียมแจ้งความจับคนสร้างข่าวปลอม ‘ไวรัสโคโรนา’ เผยรู้ตัวแล้ว 7 ราย

เมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษา (ผู้ทรงคุณวุฒิ) และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า สธ.ได้ประชุมร่วมกับศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (Anti-Fake News Center) กระทรวงดิจิทัลฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปราบการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) โดยมี พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ เป็นประธาน เพื่อให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีข่าวปลอม ข่าวลวงโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาที่ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม และ สธ.ได้เฝ้าระวังและติดตามข่าวจากสื่อโซเชียล เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย กล่าวโทษดำเนินคดีกับผู้โพสต์ ผู้แชร์ข่าวอันเป็นเท็จ ตามคำสั่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ต้องการให้ดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อป้องปรามไม่ให้เกิดการส่งต่อข้อมูลซึ่งจะทำให้ประชาชนตื่นตระหนก

นพ.รุ่งเรืองกล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ สธ. ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องการโพสต์ การแชร์ข่าวปลอม ข่าวลวงเพราะนอกจากจะเป็นภัย ทั้งด้านสุขภาพแล้ว ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจสังคมของประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา สธ.ได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เฝ้าระวังและตรวจจับ ขณะเดียวกันได้เร่งส่งเสริมการให้ข่าวที่ถูกต้องและตอบโต้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริง ลดความตื่นตระหนกและหันมาร่วมมือกันป้องกันตนเอง สำหรับการจัดการกับผู้จัดทำที่ส่งเผยแพร่ ข่าวปลอม (Fake News) เกี่ยวกับเรื่องโรคปอดอักเสบจากเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่สร้างความตื่นตระหนกแก่คนในสังคม สธ. เตรียมแจ้งความดำเนินคดีเบื้องต้น มีผู้กระทำผิดจำนวน 7 ราย โดยจะดำเนินการให้ถึงที่สุดกับผู้ที่สร้างความเสียหาย เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีแก่สังคม

Advertisement

“การทำข่าวปลอม ทำข่าวลือ มีการแชร์ต่อ ดังนั้นต้องขอเรียนว่าหากจะติดตามข้อมูลข่าวสาร ท่านจะควรติดตามกับแหล่งที่เชื่อถือได้ คือข้อมูลของกระทรวงฯ ที่มีการแถลงข่าวประจำทุกวัน เราไม่มีการปิดบังข้อมูลใดๆ เราทำตามมาตรฐานของงานสาธารณสุขนานาชาติ และหากประชาชนมีความตระหนักรู้และติดตามข่าวสารต่างๆ ขอให้อย่าแชร์ต่อโดยที่ท่านไม่ชัวร์ ถ้าจะแชร์ขอให้แชร์ของกระทรวงฯ ของคนอื่นที่ส่งมา ขอให้ท่านตรวจสอบก่อน เพราะหากท่านแชร์ข่าวปลอมต่อ ก็มีความผิดร่วมด้วย” นพ.รุ่งเรือง กล่าว

ทั้งนี้ สธ.ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากกระทรวงฯ ซึ่งจะรายงานสถานการณ์และข้อปฏิบัติตัวสำหรับประชาชนเป็นประจำทุกวันทางเว็บไซต์ https://pr.moph.go.th/ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 หรือเว็บไซต์ https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/intro.php และ Line@/เพจเฟซบุ๊ก: รู้กันทันโรค เพจเฟซบุ๊ก: กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image