เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน ผู้แทนฝ่ายไทย ลงนามในบันทึกการเจรจา (Record of Discussions) ร่วมกับ Mr.Shigeo Matsutomi Senior Vice-President องค์การความร่วมมือในการฝึกงานด้านเทคนิคของประเทศญี่ปุ่น (JITCO) ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ตอกย้ำความร่วมมือในการจัดส่งและรับผู้ฝึกงานเทคนิคไทย
นายสุชาติ เปิดเผยถึงการลงนามบันทึกการเจรจาร่วมกับ JITCO ในครั้งนี้ว่า ในระยะเวลาที่ผ่านมา กระทรวงแรงงาน โดย กกจ.ได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกับ JITCO ในการจัดส่งผู้ฝึกงานไทยไปฝึกงานในประเทศญี่ปุ่นร่วมกับองค์กร JITCO มาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2537 ซึ่งมีสาระสำคัญคือ กระทรวงแรงงานจะดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับการจัดส่งผู้ฝึกงานในกรอบของกฎหมายและระเบียบที่ใช้บังคับและจะดำเนินการคัดเลือกองค์กรที่มีความสามารถเหมาะสมในการจัดส่งผู้ฝึกงาน ตลอดจนให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ฝึกงานที่จะจัดส่งไปฝึกงานให้แก่ JITCO โดย JITCO ทำหน้าที่เป็นองค์กรที่ให้คำปรึกษาช่วยเหลือเกี่ยวกับการรับผู้ฝึกงานไทยไปฝึกงานประเทศญี่ปุ่น และ กกจ.ทำหน้าที่เป็นองค์กรผู้ส่งผู้ฝึกงานฯซึ่งทั้งสองประเทศได้ร่วมมือกันเพื่อการส่งเสริมให้แรงงานได้รับโอกาสพัฒนาศักยภาพตนเอง และร่วมแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ ในการดำเนินงานรับแรงงานต่างชาติไปฝึกงานในประเทศญี่ปุ่นตามโครงการฝึกอบรมผู้ฝึกปฏิบัติงานเทคนิค (TITP) ได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ดี จากการที่รัฐบาลญี่ปุ่น ได้ออกพระราชบัญญัติระบบผู้ฝึกงานด้านเทคนิคประเทศญี่ปุ่น โดยจัดการฝึกงานด้านเทคนิคให้เป็นไปอย่างเหมาะสมและคุ้มครองผู้ฝึกงานด้านเทคนิคชาวต่างชาติซึ่ง ซึ่งเปิดโอกาสให้แรงงานไทยสามารถฝึกปฏิบัติงานในประเทศญี่ปุ่นได้เพิ่มมากขึ้น โดยมีสาระสำคัญ เช่น ขยายระยะเวลาการฝึกงานจาก 3 ปี เป็น 5 ปี และ เพิ่มสาขาอาชีพและอนุญาตให้ฝึกงานได้มากกว่า 1 ประเภทงานในการฝึกงานกับนายจ้างรายเดียวกัน เพิ่มสาขา การดูแลบริบาล (Nursing Care) ในระบบการฝึกงานด้านเทคนิค นั้น กรมการจัดหางานและ องค์กร JITCO จึงได้ร่วมกันแก้ไขทบทวนร่างบันทึกการเจรจาเพื่อให้มีความสอดคล้องกับกฎหมายฉบับใหม่
“สำหรับการพิจารณาทบทวนปรับปรุงแก้ไขร่างบันทึกการเจรจาฉบับนี้เป็นอีกภารกิจหนึ่งที่ กกจ.และองค์กร JITCO เห็นพ้องร่วมกันที่จะวางแนวทางการปฏิบัติงานเพื่อให้โครงการความร่วมมือประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของโครงการและที่สำคัญ เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับปรุงแก้ไขตามกฎหมายและระเบียบที่ทางการกำหนดซึ่งก็ได้มีการหารือกันอย่างใกล้ชิดมาโดยลำดับ จนได้ข้อสรุปเรียบร้อยแล้ว โดยในบันทึกการเจรจาฉบับใหม่นี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการส่งเสริมและอำนวย ความสะดวกในการจัดส่งและรับผู้ฝึกงานเทคนิคไทย การสนับสนุนและเผยแพร่โครงการฝึกอบรมผู้ฝึกงานเทคนิคไทย รวมทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการถ่ายทอดทักษะฝีมือทางเทคนิค รวมถึงการกระชับความสัมพันธ์ด้านแรงงานระหว่าง กกจ.และ JITCO ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยผลักดันให้การเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างกันของทั้งสองประเทศบรรลุสู่จุดมุ่งหมาย และก่อให้เกิดผลดีต่อความสัมพันธ์ระดับมหภาค” นายสุชาติ กล่าว
