วันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่โรงพยาบาล (รพ.) มหาราชนครราชสีมา นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บจากเหตุกราดยิงที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 ที่พักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.มหาราชฯ จำนวน 21 คน และเยี่ยมให้กำลังใจทีมเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการดูแลช่วยเหลือประชาชนทั้งทางกายและใจ โดยมี นพ.ชุติเดช ตาบ-องครักษ์ ผู้อำนวยการรพ.มหาราชนครราชสีมา และ นพ.กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการ รพ.จิตเวชนครราชสีมา ร่วมให้ข้อมูล
นพ.เกียรติภูมิ ให้สัมภาษณ์ว่า จากการพูดคุยกับผู้บาดเจ็บและญาติพบว่า ทุกคนมีขวัญกำลังใจดีขึ้น บางคนยังมีความวิตกกังวลอยู่บ้าง โดยในส่วนของการดูแลผลกระทบทางจิตใจในภาพรวมนั้น ขณะนี้กรมสุขภาพจิตได้ระดมทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาะวิกฤต หรือทีมเอ็มแคท (Mental Health Crisis Assessment and Treatment Team: MCATT) ทั้งในและนอกสังกัด 15 ทีม รวม 73 คน มีผู้เชี่ยวชาญทั้งผู้ใหญ่ เด็ก และวัยรุ่น ให้การดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุครั้งนี้ โดยได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการทีมเอ็มแคทฉุกเฉินอยู่ที่ รพ.จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ มี นพ.ชิโนรส ลี้สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต เป็นผู้บัญชาการศูนย์ และมี นพ.กิตต์กวี โพธิ์โน เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ เพื่อให้การทำงานครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มมีความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สภาพจิตจิตใจของประชาชนฟื้นคืนกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วและมีความปลอดภัยที่สุด
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ได้จัดแผนการดูแลออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ปฏิบัติงานเต็มพิกัด กลุ่มที่ 1 คือ กลุ่มครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้รอดชีวิต และบาดเจ็บ รวมทั้งหมด 88 คน ประกอบด้วยครอบครัวของผู้เสียชีวิต 30 ราย บาดเจ็บ 58 คน ซึ่งผู้บาดเจ็บขณะนี้ รักษาและกลับบ้านแล้ว 33 คน ยังเหลือนอนพักรักษาตัวที่รพ. 25 คน ทีมเอ็มแคทได้ดูแลจิตใจกลุ่มนี้ทั้งหมดแล้ว ผลการประเมินสภาวะทางจิตใจในรอบ 3 วัน ระหว่าง 8-10 กุมภาพันธ์ 2563 ตรวจทั้งหมด 247 คน พบเครียดในระดับสูง 91 คน ในจำนวนนี้ พบมี 9 คน มีอาการหวาดกลัวรุนแรง นอนไม่หลับ ต้องให้การรักษาเพื่อคลายเครียด อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่และติดตามดูแลอย่างต่อเนื่อง ส่วนที่เหลืออีก 156 คน เครียดระดับน้อยถึงปานกลาง ได้ให้การปฐมพยาบาลทางใจและปรึกษาคลายเครียด และจะติดตามประเมินเป็นระยะๆ ตามแผน
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า สำหรับในกลุ่มของผู้เสียชีวิต 30 ราย ซึ่งมีภูมิลำเนาใน 9 จังหวัด ดังนี้ จ.นครราชสีมา 20 ราย กรุงเทพมหานคร 2 ราย จ.สมุทรปราการ 1 ราย จ.นราธิวาส 1 ราย จ.บุรีรัมย์ 2 ราย จ.ราชบุรี จ.สมุทรสาคร จ.อุดรธานี และ จ.สกลนคร จังหวัดละ 1 ราย กรมสุขภาพจิตได้จัดระบบดูแลจิตใจของครอบครัวอย่างต่อเนื่อง โดยมอบหมายให้ รพ.จิตเวชที่ดูแลพื้นที่ดังกล่าว รวมทั้ง รพ.ในพื้นที่ให้การดูแลร่วมกัน ไปจนกว่าจะหมดความเสี่ยงและกลับคืนสู่สภาวะปกติ
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวอีกว่า มาตรการดูแลในกลุ่มที่ 2 ได้แก่ ผู้อยู่ในเหตุการณ์และเห็นเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด เช่นผู้ที่ทำงานในห้างเทอร์มินอล 21 โคราช นักเรียนที่ไปจัดกิจกรรมในห้าง กลุ่มนี้จะเน้นการสร้างความรู้ความเข้าใจและการตรวจคัดกรองหาผู้ที่มีความเสี่ยงเกิดผลกระทบเพื่อให้การเยียวยาต่อไป และกลุ่มที่ 3 คือ ประชาชน ที่ถูกช่วยออกมาจากห้างในคืนที่เกิดเหตุ ซึ่งได้จัดจุดให้บริการ 2 แห่ง คือ ในรพ.มหาราชฯ และ รพ.จิตเวชโคราช หรือสามารถขอรับคำปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญได้ที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง หรือปรึกษาที่ รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯ โทร.0 4423 3999 ตลอด 24 ชั่วโมง เช่นกัน โดยมีผู้มาขอคำปรึกษาด้วยอาการตกใจง่าย หวาดผวา นอนไม่หลับ ที่ รพ.มหาราชฯ และ รพ.จิตเวชฯ รวม 8 คน
ด้าน นพ.กิตต์กวี กล่าวว่า ในวันนี้ ได้จัดทีมเอ็มแคท จำนวน 8 ทีม ออกปฏิบัติงานเยียวยาที่ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21โคราช, รพ.ป.แพทย์, รพ.ค่ายสุรนารี, รพ.เซนต์แมรี่,มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน และทีมลงชุมชนต่างๆ ต่อเนื่อง
สำหรับการปฏิบัติงานของทีมเอ็มแคทในช่วงวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์ จำนวน 15 ทีม ปฎิบัติการในพื้นที่ 12 จุด ทั้งในสถานที่ที่เกิดเหตุและใกล้เคียง ได้แก่ ที่ รพ.มหาราช จ.นครราชสีมา ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ชุมชนท่าตะโก ชุมชนโพธิพันธ์ ชุมชนอรุณสามัคคีโชคดี ชุมชนโนนฝรั่ง วัดดอนขวาง วัดป่าศรัทธารวม วัดคลองไผ่ ชุมชนหนองปรุ บ้านพักของผู้ก่อเหตุในโคราช และที่บ้านที่ จ.ชัยภูมิด้วย ซึ่งจะมีการประเมินผลการดำเนินงานทุกวัน