เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. พร้อมด้วย นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัด สธ. และ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน สาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุภาพที่ 10 แถลงข่าวความคืบหน้าสถานการณ์โรคไวรัสโคโรนา19
นายอนุทิน กล่าวว่า เนื่องจากทางบริษัท บริษัทหัวเว่ย (HUAWEI) มีความซาบซึ้งในการดูแลผู้ป่วยชาวจีนที่ทำการรักษาตัวที่ประเทศไทย จึงได้มอบเครื่องมือสื่อสารทางการแพทย์ (Telemedicine) จำนวน 5 เครื่อง ให้กรมควบคุมโรคใช้ในการสื่อสารสอบสวนโรค โดยจะนำไปใช้ในสถาบันบำราศนราดูร เพื่อช่วยคัดกรองผู้ป่วย เช่น การติดต่อระหว่างเจ้าหน้าที่ที่สถาบันบำราศฯ กับเจ้าหน้าที่ด่านคัดกรอง เพื่อวินิจฉัยอาการของผู้ป่วยผ่านทางเครื่องมือสื่อสาร
นพ.สุขุม กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยอัตราการเจ็บป่วยค่อนข้างดีขึ้น สถานการณ์ของไทยอยู่ในอันดับที่ 6 ของโรค และข่าวดีคือ มีผู้ป่วยยืนยันโรคไวรัสโคโรนา 19 หายดี และได้กลับบ้านเพิ่มอีก 1 ราย เป็นนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีนอายุ 33 ปี เข้ารับการรักษาที่สถาบันบำราศฯ สรุปสถานการณ์ในประเทศไทย มีผู้ป่วยยืนยันรักษาหายกลับบ้านแล้ว 13 ราย ยังคงรักษาตัวในโรงพยาบาล (รพ.) 20 ราย ไม่มีผู้ป่วยยืนยันรายใหม่เพิ่ม ยังคงมีผู้ป่วยยืนยันสะสมรวม 33 รายเท่าเดิม ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงที่รักษาอยู่ในสถาบันบำราศฯ 2 ราย เป็นรายที่มีอาการของปอดบวมรุนแรงและอีกรายมีวัณโรคร่วมด้วย ในผู้ป่วยที่มีอาการปอดบวมรุนแรงได้รับการรักษาตามมาตรฐานแต่อาการยังไม่ดีขึ้น เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ แพทย์จึงได้พิจารณาใช้เครื่องช่วยพยุงการทำงานของปอด หรือเครื่องเอคโม (ECMO) ร่วมกับเครื่องช่วยหายใจปกติ โดยได้รับความร่วมมือจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้ป่วยวิกฤตจาก รพ.ศิริราช ช่วยดูแลผู้ป่วยรายนี้ด้วย ขณะนี้อาการผู้ป่วยวันนี้ยังทรงตัว ตอบสนองต่อการใช้เครื่องเอคโม อัตราการแลกเปลี่ยนออกซิเจนในเลือดดีขึ้น
“การที่เราใช้เครื่องมือพิเศษทำให้เห็นว่าศักยภาพของแพทย์ แม้ว่าอาการหนักแค่ไหน เราก็สามารถใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นเครื่องที่ใช้เฉพาะ ที่ปกติใน รพ.ทั่วไป ไม่มีใช้ นอกจากในสถาบันบำราศฯ รพ.ราชวิถี และสถาบันโรคทรวงอก เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยให้มีโอกาสรอดมากขึ้น” นพ.สุขุม กล่าว
นพ.สุขุม กล่าวว่า ข้อกังวล 2 เรื่องคือ 1.เรื่องการป้องกันควบคุมโรคชาวจีนข้ามไปมาระหว่างประเทศไทยและประเทศเมียนมา ตรงจุดข้ามแดนธรรมชาติโก๊กโก อ.แม่สอด จ.ตาก นั้น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ตาก ได้ร่วมกับกรมควบคุมโรค ฝ่ายปกครอง ทหาร ในพื้นที่ สั่งการไม่ให้ชาวจีนข้ามตรงจุดข้ามแดนธรรมชาติดังกล่าว โดยให้ไปข้ามที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศด่านพรมแดนแม่สอดแทน เพื่อให้ทุกคนได้รับการตรวจคัดกรอง 2.สำหรับเรือเวสเตอร์ดัม ที่เทียบท่าเรือสีหนุ วิลล์ ประเทศกัมพูชา ทั้งนี้ สธ.ไทยมีข้อมูลรายชื่อผู้โดยสารทั้งหมดได้ประสานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และด่านควบคุมโรคทั้งบก เรือ อากาศ กำชับให้เข้มมาตรการคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศจากกัมพูชา หากพบผู้สงสัยจะนำเข้าระบบป้องกัน ควบคุมโรค ตามมาตรการของ สธ.
“ตอนนี้เราทำเกินกว่าคือ เครื่องบินสายการบินใดก็ตามที่มาจากกรุงพนมเปญ มาสู่ประเทศไทย จะมีการคัดกรองเหมือนสายการบินที่มาจากเมืองอู่ฮั่น และที่ชายแดนจะมีการคัดกรอง 100% เรามีการดูชื่อ หากมาด่านเรือ ทางบก เราจะต้องมีการคัดกรอง มั่นใจว่าถ้าเขามาแล้วจะโดนการตรวจเหมือนกับคนที่มาจากอู่ฮั่น” นพ.สุขุม กล่าว
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ได้รับรายชื่อผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดแล้ว จะต้องแยกเป็น 2 กลุ่มคือ 1.คนไทยที่เป็นผู้โดยสาร 2 คน และ 2.คนไทยเป็นลูกเรือ 19 คน ทางสถานทูตกัมพูชารวมกับกรมการกงสุล ได้ประสานในเรื่องของแผนการเดินทางคนไทย 21 คนนี้แล้ว และได้ส่งรายชื่อคนที่เหลือไปยังด่านควบคุมโรคที่ ตม.แล้ว เพื่อตรวจสอบคัดกรองทั้งด่านบก ด่านอากาศและด่านน้ำ ทั้งนี้ ย้ำว่าไม่ใช่การตีตรา ไม่ใช่เป็นการเลือกปฏิบัติแต่ว่าจะต้องเข้มข้นในการคัดกรองความเสี่ยงเพิ่มเติมเท่านั้น
ด้าน นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า กรณีการสงสัยว่าชาวจีนที่ไม่สามารถข้ามผ่านแดนแม่สอดไปยังด่านธรรมชาติโก๊กโก ซึ่งเป็นจุดที่ข้ามไปฝั่งประเทศเมียนมา โดยเป็นพื้นที่ประเทศจีนกำลังทำการก่อสร้างเป็นนิคมเมืองเพื่อให้ชาวจีนไปพักอาศัย คาดว่าจะมีคนอยู่ 2-3 หมื่นคน สืบเนื่องจากเทศกาลตรุษจีนที่มีการให้ข้ามพรมแดนมาประเทศไทย แต่ไม่สามารถกลับไปได้เนื่องจากกลัวโรคติดต่อ และผู้ที่จะเดินทางกลับต้องมีใบรับรองแพทย์จากฝั่งประเทศไทยก่อน จึงจะต้องมีการเฝ้าระวังโรค 14 วัน ก่อนจะให้ข้ามผ่านแดนไป ขณะนี้ได้รับรายงานจากสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.จ.) ตาก ว่า มีผู้ข้ามผ่านแดนไปในช่วงหลังตรุษจีนประมาณ 6,000 คน แต่มีการผ่านช่องทางด่านธรรมชาติโก๊กโกเพียงจำนวนหลักร้อยเท่านั้น และผู้ว่าราชการจังหวัดตากมีการสั่งปิดด่านธรรมชาติต่างๆ แล้ว และเปลี่ยนไปใช้ทางผ่านแดนที่เป็นสนามบินและทางบกที่มีการคัดกรองด้วยเครื่องเทอร์โมสแกน
“ขณะนี้เรื่องการควบคุมโรคได้ดำเนินมาต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงตรุษจีน แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีชาวจีนที่อยู่ใน อ.แม่สอด ที่ไม่สามารถข้ามแดนไปได้ก็พักอยู่ที่โรงแรมใน อ.แม่สอด ไม่มีภาวะอะไรอันตราย แต่มีผู้เข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค 2 ราย และผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ (แล็บ) เป็นลบ สถานการณ์ขณะนี้ตรึงอยู่อย่างดีเยี่ยมและให้ความร่วมมือกันทั้ง 2 ทาง โดยทั่วไปก็มีการข้ามไปข้ามมาเหมือนพี่น้องกันและเป็นเรื่องธุรกิจด้วย” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องยกระดับการคัดกรองของผู้ที่เดินทางมาจากประเทศฮ่องกงและสิงคโปร์อย่างไร นพ.สุวรรณชัย ขณะนี้มีการเตรียมการแล้ว แต่ในด้านมาตรการสามารถดำเนินการได้ตามนโยบายได้ทันที เพียงแต่ว่าจะมีการประกาศยกระดับหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อยากให้ทำความเข้าใจว่าประเทศที่มีความเสี่ยงหรือพบผู้ป่วยจำนวนมาก โดยภาพรวมหากมีการเดินทางเข้ามาจะมีการคัดกรองที่ประตูขาเข้า (เกต) และการคัดกรองที่ด่าน ตม. ยืนยันว่าการดำเนินได้อย่างเต็มที่
เมื่อถามว่า จะต้องรอให้สถานการณ์ของประเทศสิงคโปร์และฮ่องกงมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นหรือไม่จึงจะมีการยกระดับ นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ต่อให้มีการประกาศยกระดับขึ้น แต่ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาตรการการปฏิบัติงาน เพียงแต่จะมีการคัดกรองหน้าเกตของสายการบินที่มาจากประเทศที่มีจำนวนผู้ป่วยมากขึ้น และรายชื่อของผู้เดินทาง ตม.และด่านควบคุมโรคจะตรวจซ้ำอีกครั้ง แต่ไม่มีความจำเป็นต้องประกาศยกระดับการเฝ้าระวังจากประเทศอื่น