สวช.ทำ “พิมพ์เขียว” วิจัยพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัส “โควิด-19”

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ นพ.ครรชิต ลิมปกาญจนารัตน์ ประธานอนุกรรมการวิชาการ สถาบันวัคซีนแห่งชาติ (สวช.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สถาบันวัคซีนฯ ได้จัดประชุมหารือเรื่องการวิจัยพัฒนาวัคซีนและวิจัยด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อตอบสนองต่อการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 โดยมีนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย ในหน่วยงานภาครัฐ มหาวิทยาลัย รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนกว่า 30 คน เข้าร่วมระดมสมอง ณ ห้องประชุมของสถาบันวัคซีนฯ เพื่อจัดลำดับความสำคัญของงานวิจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวทางการพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 เพื่อใช้ในอนาคตอันใกล้ รวมทั้งการจัดเตรียมแผนงานวิจัยระดับประเทศ เรื่องการระบาดใหญ่ ซึ่งทุกคนต่างสนับสนุนให้เดินหน้าวิจัยในเรื่องนี้ แม้ว่าจะมีข้อจำกัดเรื่องการทำงานแข่งกับเวลาอย่างมาก

นพ.ครรชิต ลิมปกาญจนารัตน์

ด้าน นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายในการรับมือปัญหาไวรัสโควิด-19 ดังนี้ 1.ลดโอกาสการแพร่เชื้อเข้าสู่ประเทศไทย 2.ทุกคนในประเทศไทยต้องปลอดภัยจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และ 3.ลดผลกระทบทางสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม ดังนั้นสถาบันวัคซีนฯ จึงได้นำพิมพ์เขียวแนวทางวิจัยและพัฒนาขององค์การอนามัยโลก (WHO R&D Blueprint) ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 มาเป็นประเด็นสำคัญในการระดมสมองเพื่อดำเนินการตามเป้าหมายข้างต้นและสอดรับกับภารกิจของสถาบันวัคซีนฯ ได้แก่ การพัฒนาพิมพ์เขียวของประเทศ การจัดลำดับความสำคัญในการรับมือสถานการณ์ และการหาทุนสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาทั้งจากในและต่างประเทศ

“ขณะนี้แต่ละหน่วยงานกำลังดำเนินงานอย่างเข้มข้น เช่น กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สามารถเพาะเชื้อไวรัสโควิด-19 จากสารคัดหลั่งของผู้ป่วยได้สำเร็จ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการวิจัยพัฒนาวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มีศักยภาพในการวิจัยพัฒนา virus-like particle,VLP วัคซีน และอยู่ระหว่างการพัฒนาชุดตรวจหาเชื้อไวรัสเบื้องต้น ซึ่งอาจต้องใช้เวลา 3-5 เดือน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อยู่ระหว่างขอทุนสนับสนุนในการวิจัยวัคซีนชนิด mRNA องค์การเภสัชกรรม (อภ.) อยู่ระหว่างเตรียมการร่วมงานกับมหาวิทยาลัยมหิดล เช่นเดียวกัน ขณะเดียวกัน คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ก็พร้อมร่วมมือสนับสนุนการนำวัคซีนไปทดสอบในสัตว์ทดลอง นอกจากจะได้รับทราบถึงความก้าวหน้าขององค์ความรู้ในหลายมิติแล้ว ยังได้เห็นสัญญาณของการร่วมมือเพื่อบูรณาการจัดการกับปัญหานี้อีกด้วย” นพ.นคร กล่าว

Advertisement

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

 

Advertisement

 

สำหรับผู้เข้าร่วมหารือในครั้งนี้ ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ กรมควบคุมโรค สถาบันบำราศนราดูร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล คณะสัตวแพทยศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ องค์การเภสัชกรรม บริษัท องค์การเภสัชกรรม-เมอร์ริเออร์ชีววัตถุ จำกัด บริษัท ไบโอเนท เอเชีย จำกัด และนักวิชาการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image