ครม.มีมติยกระดับ ‘สปสช.’ องค์การมหาชนกลุ่มที่ 1 เป็นยิ่งกว่าองค์กรบริการสาธารณะทั่วไป

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ได้มีมติเห็นชอบปรับ สปสช. เป็น “องค์การมหาชนกลุ่มที่ 1 พัฒนาและดำเนินการตามนโยบายสำคัญของรัฐเฉพาะด้าน” จากเดิมที่ถูกจัดอยู่ในองค์การมหาชนกลุ่มที่ 3 บริการสาธารณะทั่วไป ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เสนอ

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวถึงการปรับ สปสช.เป็นองค์การมหาชนกลุ่มที่ 1 ว่า สืบเนื่องจากคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) มีมติเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2562 ให้พิจารณาศึกษาแนวทางและความเป็นไปได้ในการยกระดับ สปสช. เนื่องจากบทบาทภารกิจ สปสช.ในปัจจุบันมีความซับซ้อน หลากหลาย และขยายขอบเขตกว้างขวางขึ้น จากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงของระบบหลักประกันสุขภาพ ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก รวมทั้งต้องเชื่อมโยงกับระบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้ภาระงานและความรับผิดชอบของ สปสช.มีขอบเขตกว้างขวางกว่าการบริหารเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติตามอำนาจมาตรา 26 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

Advertisement

 

 

“นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาในองค์ประกอบขององค์การมหาชนกลุ่มที่ 1 คือ 1.ขับเคลื่อนงานสำคัญของรัฐบาล ให้เกิดผลในทางปฏิบัติภายใต้ระยะเวลาจำกัด ได้แก่ การทำให้ประชาชน 48 ล้านคนทั่วประเทศ มีหลักประกันสุขภาพคุ้มครอง ผลักดันนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่ เพื่อคุ้มครองประชาชน การดูแลกลุ่มเปราะบางให้เข้าถึงบริการสุขภาพ การร่วมจัดทำข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ของประเทศ การร่วมบูรณาการลดความเหลื่อมล้ำ 3 กองทุนสุขภาพ เป็นต้น 2.ต้องการผู้บริหารที่มีความสามารถสูงเพื่อบริหารงานเชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งที่ผ่านมาผู้บริหาร สปสช.สามารถขับเคลื่อนงานต่างๆ ได้สำเร็จ บรรลุเป้าหมาย และ 3.ต้องบริหารเครือข่าย ซึ่งการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ไม่เพียงแต่ได้สร้างเครือข่ายในประเทศ แต่ยังขยายผลโดยมีความร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศ และประเทศต่างๆ” นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวและว่า การที่ ครม.เห็นชอบยกระดับ สปสช.เป็นองค์การมหาชนกลุ่มที่ 1 สะท้อนว่าการดำเนินงานของ สปสช. ในการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในช่วง 17 ปี มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า สปสช.ได้วางทิศทางดำเนินงาน อาทิ มุ่งจัดหาบริการให้เพียงพอและผู้มีสิทธิได้รับบริการที่มีคุณภาพมาตรฐาน เพิ่มประสิทธิผลความครอบคลุมบริการ ออกแบบบริหารกองทุนรองรับการขยายสิทธิประโยชน์ พัฒนาประสิทธิภาพบริหารจัดการกองทุน พัฒนาศักยภาพและความเข้มแข็งกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพิ่มขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน แสวงหาแหล่งเงินใหม่เข้าสู่ระบบ ร่วมขับเคลื่อนบทบาทไทยในเวทีด้านหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าโลก เป็นต้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image